ปตท.เล็งนำเข้าLPG3หมื่นตัน โรงกลั่นแท็กทีมหยุดซ่อมบำรุงโรง กลั่นแท็กทีมหยุดซ่อมบำรุงทั้ง PTTAR-IRPC-SPRC ทำเอาก๊าซ LPG ป่วนอีกรอบ สั่ง ปตท.โหมนำเข้าไม่ให้ขาดตลาด เดือนมีนาคมนี้นำเข้าไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 ตัน ด้าน IRPC แจ้งหยุดผลิตตามแผน ส่วน SPRC บอกแค่ผลิตไม่เต็มที่เท่านั้น ด้าน ปตท.บอกสต๊อก LPG เดือนมกราคมยังเหลือ จะนำเข้าอีกทีช่วงมีนาคม ส่วนการปรับสำรอง LPG เพิ่มจาก 0.5% หรือไม่ อยู่ที่นโยบายรัฐบาล
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความเป็นไปได้ว่า ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมนี้จะต้องนำเข้าก๊าซหุงต้ม (LPG) ประมาณ 20,000-30,000 ตัน เพื่อทดแทนกำลังผลิตที่หายไปจากการหยุด
ซ่อมบำรุง ของหลายโรงกลั่นในเครือของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ทั้งหยุดซ่อมบำรุงปกติ และบางโรงหยุดซ่อมฉุกเฉิน เช่น โรงกลั่นของบริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ส่งผลให้กำลังผลิตที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับความต้องการใช้ในประเทศ
ทั้งนี้ความต้องการใช้ก๊าซ LPG ช่วงที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันลดลง
ต่อ เนื่อง ส่งผลให้ผู้ใช้น้ำมันหันมาใช้มากขึ้น จากเดิมที่ยอดการนำเข้าก๊าซ LPG อยู่ที่ 100,000 ตัน/เดือน ล่าสุดในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการนำเข้าโดย ปตท. เพียง 30,000 ตันเท่านั้น
สำหรับการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราสำรองก๊าซ LPG จากเดิมที่กำหนดไว้เพียงร้อยละ 0.5 นั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมรับมอบนโยบายจากรัฐบาลว่าต้องการให้เดินหน้า เรื่องนี้หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนที่จะชะลอการปรับราคาก๊าซ LPG ซึ่งเดิมทีนั้นตามหลักการ
เมื่อมีการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG แล้ว เชื่อว่าเมื่อราคาก๊าซ LPG แพงขึ้น ความต้องการใช้ย่อมลดลง ฉะนั้นการปรับสำรองจึงไม่มีความจำเป็น
"ไม่ได้ติดขัดอะไรในเรื่อง การปรับสำรอง ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะมีนโยบายต่อเรื่องนี้อย่างไร กรมธุรกิจพลังงานเป็นเพียงหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติตาม แต่ตอนนี้นโยบายยังไม่ชัดว่าจะเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้แค่ชะลอการขึ้นราคา LPG ออกไปก่อน หากรัฐบาลยอมปล่อยราคา การปรับสำรองเพิ่มขึ้นอาจจะไม่จำเป็น เพราะราคาที่แพงขึ้น คนจะใช้ LPG น้อยลงไปเอง"
รายงานข่าวจากบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ขณะนี้โรงกลั่นน้ำมันไออาร์พีซีได้หยุดผลิตเพื่อซ่อมบำรุงทั้งส่วนของโรง กลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีตามแผนที่วางไว้คือตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ และจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเชื่อมต่อการผลิตกับโครงการใหม่ คือโครงการกำลังการผลิต HDPE ไปป์เกรด และโครงการขยายกำลังการผลิต ABS-CCM ด้านโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด หรือ SPRC แจ้งมายังกรมธุรกิจพลังงานเพียงว่าไม่ได้มีการหยุดซ่อมบำรุง แต่ยังไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังผลิตเท่านั้น
ด้านนายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่วางแผนหน่วยธุรกิจก๊าซ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้มีบางโรงกลั่นที่หยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุง จึงทำให้การผลิตก๊าซ LPG ลดลง แต่ยังไม่จำเป็นต้องนำเข้าในช่วงนี้ทันที เนื่องจากยังมีสต๊อก LPG ที่นำเข้ามาในช่วงเดือนมกราคม 2552 ยังเหลือและเพียงพอรองรับเนื่องจากความต้องการใช้ลดลง ซึ่งจะมีการนำเข้าก๊าซ LPG อีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้แน่นอน รวมถึงราคาก๊าซ LPG
ในตลาดโลกขณะนี้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากที่เมื่อต้นปีราคาอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตันเท่านั้น มีการคาดการณ์ว่าราคาก๊าซ LPG ในเดือนมีนาคมจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งหากนำเข้าในช่วงนี้จะเหมาะสมกว่า
"โชคดีที่ดี มานด์ลดลง ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ สต๊อกเดือนมกราคมยังเหลือมาถึงกุมภาพันธ์ ก็ยังไม่ต้องนำเข้า เราเองก็ไม่อยากนำเข้าช่วงนี้ด้วย เพราะราคาสูงกว่าช่วงต้นปีเล็กน้อย ปตท.ไม่อยากรับภาระมากไปกว่านี้"
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4083