ประมูลติดตั้งเอ็นจีวีให้แท็กซี่ฟรี 15,000 คัน "ส.ศิริแสง"เข้าวิน เสนอราตาต่ำสุด 247 ล้านบาท จากราคากลางที่ตั้งไว้ 366 ล้านบาท "คุรุจิต"เผยที่ได้ราคาต่ำ เพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาทำให้ต้นทุนผลิตต่ำ ผู้ผลิตถังและอุปกรณ์มีจำนวนมาก ยันให้ล็อตแรก 5,700 คันเสร็จโดยเร็ว พร้อมเปิดรับสมัครเพิ่มหลังปีใหม่
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากที่กระทรวงพลังงานได้เปิดให้เอกชนประกวดราคาจัดซื้อถังก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) และอุปกรณ์ส่วนควบ เพื่อติดตั้งในรถแท็กซี่แทนก๊าซแอลพีจี จำนวน 15,000 ชุด ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา โดยมีเอกชนที่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคเข้าร่วมประมูล จำนวน 6 ราย ประกอบด้วยบริษัท ส.ศิริแสง จำกัด บริษัท สยามราชธานี คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด บริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด บริษัท ก๊าซเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และกลุ่มกิจการร่วมค้า ทาคูนินั้น
ปรากฏว่าผู้ที่ชนะประมูลเป็น
บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด โดยเสนอในราคาที่ต่ำสุด 247 ล้านบาท จากราคากลางที่กระทรวงพลังงานตั้งไว้ที่ 366.455 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำกว่าการประมูลครั้งก่อนที่บริษัท ออโต้แพน จำกัด เสนอมา 250.5 ล้านบาท แต่ต้องยกเลิกสัญญาการจัดซื้อไป เพราะไม่สามารถส่งมอบถังและอุปกรณ์ส่วนควบได้ โดยผู้ที่ชนะประมูลครั้งนี้ จะนำเข้าถังเอ็นจีวีจากประเทศจีน และนำเข้าอุปกรณ์ส่วนควบเอ็นจีวีจากประเทศอิตาลี
สำหรับการจัดประมูลได้ในราคาต่ำครั้งนี้ นายคุรุจิต ระบุว่า เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ผลิตถังและอุปกรณ์ส่วนควบมากขึ้น ตลอดจนมีการใช้อย่างแพร่หลายในตลาด รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตพัฒนาไปมากทำให้ราคาถูกลง ประกอบกับจำนวนผู้ประมูลหลายรายทำให้เกิดการแข่งขันกันสูงในตลาด ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ที่จะหันมาติดตั้งเอ็นจีวีในเวลานี้
ส่วนการลงนามในสัญญาซื้อขายอุปกรณ์และถังเอ็นจีวีระหว่างกระทรวงพลังงานกับบริษัทที่ชนะประมูลนั้น เนื่องจากเป็นวงเงินการจะซื้อที่สูงมาก จึงต้องนำเสนอปลัดกระทรวงพลังงานและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรับทราบก่อน และคาดว่าหลังจากปีใหม่ไปแล้วน่าจะลงนามในสัญญาจัดซื้อได้
นายคุรุจิต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้โครงการดังกล่าวดำเนินการอย่างเร่งด่วน ทางกระทรวงพลังงานจะสั่งซื้อถังและอุปกรณ์เป็นล็อตๆ ซึ่งจะมาดำเนินการกับกลุ่มรถแท็กซี่ที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการไปก่อนหน้านี้กว่า 5,700 คัน ผ่านการติดตั้งอู่มาตรฐานที่กำหนด 23 แห่ง และคาดว่าภายในเดือนมกราคม 2555 จะเปิดรับสมัครรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการโดยมีระยะเวลาประมาณ 30 วัน แต่หากแท็กซี่มีความสนใจแต่มาสมัครไม่ทันอาจจะขยายระยะเวลาออกไปอีก 30 วันได้
ส่วนกรณีที่มองว่าจำนวนรถแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีอาจจะเหลือไม่ถึง 15,000 คัน เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีก่อนหน้านี้แล้ว ก็คงต้องรอดูว่าหลังจากเปิดรับสมัครแล้วจะมีรถแท็กซี่เข้าร่วมจำนวนกี่คัน ซึ่งหากไม่มีรถแท็กซี่เข้ามาร่วมโครงการตามจำนวนที่กำหนดไว้ ทางกระทรวงพลังงานก็คงต้องปิดการรับสมัครและคงไม่เปิดโครงการขึ้นมาอีก
ที่สำคัญการให้รถแท็กซี่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีนั้น จะเป็นทางออกหนึ่งให้รถแท็กซี่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาแอลพีจีขึ้นไป 0.41 สตางค์ต่อลิตร ในวันที่ 16 มกราคมนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการบัตรเครดิตพลังงานช่วยเหลือกับรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีในอัตรากิโลกรัมและ 2 บาท แต่ระหว่างที่รถแท็กซี่รอการติดตั้งเปลี่ยนมาเป็นเอ็นจีวีนั้น ขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังหาทางออกว่าจะช่วยไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาแอลพีจีขึ้นไปได้อย่างไร
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 29-31 ธันวาคม พ.ศ. 2554
www.thanonline.comสำนักงานที่ตั้งผู้ชนะการประมูล
บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด
www.siriseang.com 300 / 8 - 9 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวง/เขตดินแดง
กรุงเทพมหานคร 10400
โทร : +66 (0) 2691 - 9777 โทรสาร : +66 (0) 2277 - 8178
บริษัท ศิริแสง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
22 / 22 ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ตำบลกระทุ่มล้ม
อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73220
โทร : +66 (0) 2814 - 1888 โทรสาร : +66 (0) 2814 - 3974
![](http://www.siriseang.com/htm/images/images/pic/ind-ad.jpg)