เจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมีอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับรถยนต์บางคันเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ต้องมาถูกอู่ที่ไม่จรรยาบรรณให้เปลี่ยนมากเกินความเสียหาย อย่างบางคันกล่อง สมองกล (ECU) ไม่เสียหายแต่กลับถุกอู่ซ่อมรถจับเปลี่ยน ทั้งที่ตอนย้ายรถขึ้นจากน้ำก็ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ และสำหรับรถบางยี่ห้อปลั้ก และกล่องก็เป็นชนิดกันน้ำได้ หรือบางคันน้ำท่วมไม่ถึงกล่อง ECU และอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย แต่เพราะความไม่รู้ของเจ้ารถไม่เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์กลไกต่างๆ จึงทำให้สมาคมประวินาศภัย จัดโครงการบูรณาการซ่อมรถประสบภัยน้ำท่วม ปี 2554 และ แบบตรวจสอบและประเมินราคาค่าซ่อมรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของอู่ซ่อมบางแห่งที่มาซ้ำเติม ผู้ประสบภัย
ดาวน์โหลดโครงการบูรณาการซ่อมรถประสบภัยน้ำท่วม ปี 2554 ดาวน์โหลดแบบตรวจสอบและประเมินราคาค่าซ่อมรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วม สามารถติดตามข่าวสารของสมาคมประกันวินาศภัยได้ที่ >>
www.thaigia.com เปิดรายการ "ราคากลาง" ซ่อมรถหลังน้ำท่วม ป้องกันถูกเอาเปรียบ ระดับ A หรือกรณีที่น้ำเข้ารถระดับพื้นพรม จะมีรายการซ่อม 15 รายการ ราคาประมาณ 8,000-10,000 บาท คาดว่าจะใช้เวลาซ่อม 3-5 วัน
ระดับ B ท่วมระดับเบาะ จะมีรายการซ่อม 26 รายการ ราคาประมาณ 15,000-20,000 บาท คาดว่าจะใช้เวลาซ่อม 14 วัน
ระดับ C หรือท่วมถึงเรือนไมล์ของรถ ถือว่าค่อนข้างหนัก ต้องซ่อมทั้งหมด 39 รายการ ราคาประมาณ 20,000-30,000 บาท ต้องใช้เวลาซ่อม 21-30 วัน
ระดับ D ก็คือท่วมมิดหลังคา ส่วนใหญ่ค่าซ่อมจะสูงเกิน 70% ของทุนประกันอยู่แล้ว ก็เสมือนว่าเสียหายทั้งคัน บริษัทประกันก็จะจ่ายทุนประกัน
** ราคากลางดังกล่าวคิดเฉพาะค่าแรง ไม่รวมค่าอะไหล่ซึ่งจะขึ้นกับรถแต่ละรุ่นที่จะมีค่าอะไหล่แตกต่างกัน รวมถึงระดับความเสียหายของรถ เช่น รถที่จอดแล้วท่วม ชิ้นส่วนบางรายการแค่ทำความสะอาด เป่าแห้งแล้วก็กลับมาใช้ได้ แต่ถ้าขับลุยเข้าไปแล้วน้ำท่วม โอกาสชิ้นส่วนเสียหายจะค่อนข้างมากแน่นอน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าอะไหล่ ในช่วงนี้จะไม่แพงมากนัก เพราะบรรดา ผู้แทนขายอะไหล่รายใหญ่ก็ช่วยลดราคาให้ประมาณ 30% ด้วย ก็เป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยลดภาระผู้บริโภคลงไปได้ **