หวั่นครัวเรือนร้องจ๊ากทำค่าครองชีพพุ่งปรี๊ด เตรียมหารือในที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานก่อน..
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ระบุว่า จะขยายระยะเวลา 5 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤติเพื่อไทยทุกคนที่จะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ค.ต่อไปอีก แต่อาจทบทวนในเรื่องของการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือร่วมกัน แต่เห็นว่าการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว อาจกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนได้ จึงต้องหารือในที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานก่อน
"ผมเห็นว่าราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะหากขึ้นราคาก็จะกระทบค่าครองชีพประชาชน แต่ก็ยอมรับว่าถ้าไม่ขึ้นก็จะทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้เปรียบ คือกลุ่มขนส่งและปิโตรเคมีก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้การนำเข้าต้องเพิ่มขึ้นอีก ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานเคยมีแนวคิดที่จะแยกราคาก๊าซหุงต้มเป็น 2 ราคา ระหว่างครัวเรือน ขนส่ง และปิโตรเคมี แต่ในทางปฏิบัติต้องมาดูรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร ขณะนี้เตรียมจัดจ้างที่ปรึกษาขึ้นมาดูราคาหน้าโรงแยกก๊าซหุงต้มและโรงกลั่นน้ำมันให้เหมาะสมอยู่"
สำหรับกรณีรถแท็กซี่ที่ต้องการเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากก๊าซหุงต้มมาเป็นก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ หรือเอ็นจีวี ขณะนี้กระทรวงพลังงานยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะนำเงินกองทุนน้ำมันไปช่วยเปลี่ยนฟรีให้หรือไม่ เพราะเดิมที่กำหนดนโยบายเปลี่ยนเชื้อเพลิงฟรี โดยมีเงินสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ว่าจะมีการแยกราคาก๊าซหุงต้มด้วยการขึ้นราคาภาคอุตสาหกรรม/ขนส่งแต่ไม่ขึ้นราคาภาคครัวเรือน แต่ขณะนี้ไม่เป็นไปตามแผนดังกล่าว จึงยังไม่ได้มีข้อตกลงว่าจะทำอย่างไร
"ผลพวงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์ เริ่มหันกลับมาใช้ก๊าซหุงต้มมากขึ้น โดยผมกังวลว่าจะมีผลให้การนำเข้าก๊าซหุงต้มสูงขึ้นอีก แต่ก็จะพยายามดูแลไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลน โดยล่าสุด ปตท.มีแผนนำเข้าในเดือน มิ.ย. 60,000 ตัน จากขณะที่เดือน พ.ค.ที่นำเข้า 66,000 ตัน ส่งผลให้การนำเข้าสะสม 6 เดือนแรกของปีนี้มีทั้งสิ้น 640,000 ตัน ซึ่งล่าสุดราคานำเข้าอยู่ที่ 419 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน"