ตัวนี้จะเป็นหม้อต้ม tomasetto at09 ALASKA น่ะครับ สภาพเก่าหน่อยน่ะครับ ของลูกค้าเปลี่ยนไว้นานแล้ว ตามสภาพ อิอิ
เริ่มหลักการทำงาน ของหม้อต้มตัวนี้กัน
เริ่มจากแก็สเข้าบริเวณท่อ 6 มม. ผ่านกรองแก็ส ไปยังชุดโซลีนอยวาล์ว ผ่านไปยังห้องแรงดันสูง
![](https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/t1.0-9/10426628_671314432918270_8736556281039115077_n.jpg)
ภายในห้องแรงดันสูง จะมีอุปกรณ์ควบคุมแรงดันอยู่ ลักษณะเป็นกระเดือง เราจึงเรียกหม้อต้มชนิดนี้ว่าชนิดกระเดือง มาดูหลักการทำงานคราวๆกันครับ
![](https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/t1.0-9/1520662_671359486247098_1874977436344552769_n.jpg)
ขออธิบายภาษาบ้านๆน่ะครับ ฝั่งซ้ายจะเป็นฝั่งของแก็สแรงดันสูง ฝั่งขวาจะเป็นฝั่งของแรงดันสปริงและแรงดูดของเครื่องยนต์ สองฝั่งนี้จะจะทำการต่อต้านกันอยู่น่ะครับ โดยค่าแรงดันที่เราต้องการจะถูกคำหนดโดยความแข็งของสปริง
![](https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xpf1/t1.0-9/10003961_671346476248399_6154022054144805567_n.jpg)
หลักการมีอยู่ว่า สปริงแข็งแรงดันเยอะ สปริงอ่อนแรงดันน้อย
![](https://fbcdn-sphotos-g-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpf1/t1.0-9/10371999_671346399581740_5948010064468569568_n.jpg)
![](http://)
ถ้าเราต้องการเพิ่มแรงดันต้องปรับให้สปริงแข็งแรงดันในห้องแก็สไม่สามารถสู้แรงดันสปริงได้ ทำให้กระเดืองโดนกดลง วาล์งอีกฝั่งของกระเดืองเปิดเยอะขึ้น ทำให้แรงดันแก็สเพิ่มขึ้น
ถ้าลดแรงดันก็ทำได้โดยปรับให้สปริงอ่อน ทำให้แรงดันในห้องแก็สดันแผ่นใดอะแฟรมชนะสปริง ขากระเดืองก็โดนยกขึ้นทำให้วาล์วอีกฝั่งของกระเดืองเปิดน้อยลง เป็นการลดแรงดัน
ตอนเร่งเครื่องยนต์ ฝั่งดูดใช้แรงดูดของเครื่องยนต์ มาช่วยในการชนะความแข็งของสปริงทำให้สปริงมีความแข็งลดลง ฝั่งห้องแก็สจึงมีแรงเยอะกว่า ทำให้ขากระเดืองยกขึ้น ทำให้ทำให้พยายามปิดวาล์วอีกฝั่ง แก็สในห้องก็ลดแรงดันลง แรงสปริงก็ชนะอีกครั้ง ทำให้วาล์วเปิดขึ้นอีก เมื่อแรงดันเพิ่มขึ้นวาล์วก็ค่อยๆปิด การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ปิดเปิดๆตลอดเวลา เพราะฉะนั้นในตอนเร่งแรงดันของหม้อต้มชนิดนี้ก็เลยตกลงเล็กน้อยครับ เพราะความแข็งของสปริงลดลง ย้ำว่าเล็กน้อยน่ะครับ
![](https://fbcdn-sphotos-d-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpf1/t1.0-9/10303752_671347762914937_2401143474780263889_n.jpg)
ต่อมาพูดถึงตอน over load ของแรงดันหม้อต้ม เกิดขึ้นตอนที่แรงดันในห้องแก็สสูงมากกระเดืองก็ปิดวาล์ว ทันที แต่ในขณะนั้นแรงดันยังไม่ลด หรือลดไม่ทัน ถ้าไม่มีเซพตี้วาล์ว อาจจะทำให้แผ่นใดอะแฟรมขาดได้ จึงได้มีวาล์วทองเหลือง ทำพิเศษขึ้นมา ในขณะที่วาล์วปิดกระเดื่องยกสุดแล้ว วาล์วทองเหลืองตัวนี้จะสามารถยกขึ้นไปได้อีก เนื่องจากแรงดันดันแผ่นใดอะแฟรมและชนะแรงดันสปริงภายในเซพตี้วาล์ว เมื่อชนะแรงดันสปริงเซพตี้วาล์วทำงานจะทำการปล่อยแก็ส ทิ้งเข้าไปในห้องแรงดูดผ่านรูเล็กๆดังรูปครับ ก็เกิดคำถามขึ้นว่า เอ้า….แล้วแก็สเข้าไปในห้องดูดก็เข้าเครื่องละสิ ตอบว่าใช่ครับ แต่เป็นแค่ช่วงขณะนึงเท่านั้น แทบไม่เห็นผล และโอกาสเกิอ over load น้อยมากครับ และตัวเซพตี้วาล์วตัวนี้ก็สามารถเป็นสาเหตุนึงของรถสตาร์ทยากในตอนเช้าด้วยครับ ถ้าเกิดอาการรั่ว แก็สจะไหลผ่านเข้าไปสู้ท่อร่วมไอดีได้ครับ
ต่อมาเมื่อแก็สผ่านห้องควบคุมแรงดันแล้ว ก็ไหลเข้าสู่ห้องเปลี่ยนสถาะนะจากของเหลวเป็นก๊าซ โดยการแลกเปลี่ยนความร้อน อันนี้ก็คงไม่ต้องอธิบายเนอะ ทั่วๆไปก็อธิบายกันไว้เยอะแล้ว อิอิ ขอฝากไว้แค่นี้ครับ วันนี้ว่างๆเลยผ่ามาดู และนั่งคิดการทำงานของมั นอยู่นานเหมือนกัน เล่นเอาปวดหัวครับ 55555
งงยังไง ถามได้น่ะครับ ผมอธิบายไม่ค่อยเก่ง 555