วันนี้มา Review งานติดตั้งและเจาะลึกโปรแกรมจูนชุดแก๊ส Stag-200 Go Fast น้องใหม่ล่าสุดจากค่าย AC ครับ
โดยเราได้ทดสอบติดตั้งในรถ 3 รุ่น 3 คันคือ Honda CR-V G3 (2.0), Nissan Almera และ Toyota All New Vios
ซึ่งผลก็ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจครับ จบเนียนๆทุกคัน
สเป็คอุปกรณ์ของชุด Stag-200 Go Fast เทียบกับราคาติดตั้งในช่วงโปรโมชั่นตอนนี้แล้วถือว่าคุ้มค่ามากครับ
มีทั้งกล่อง ECU Stag-200 Go Fast 32 Bit ประมวลผลได้ไวขึ้น
หม้อต้ม Tomaseto AT09 แต่อนาคตเร็วๆนี้จะแทนที่ด้วยหม้อต้ม AC R02 136HP
Map Sensor ใช้รุ่น PS-02 5 สายวัดทั้งแรงดันและแรงดูด
ส่วนสวิตซ์แก๊สรุ่นใหม่เล็กกระทัดรัดพร้อม Buzzer ในตัวครับ
หัวฉีดในชุดจัดเป็น Hana 2000 มีทั้งแบบรางสี่และแบบแยกเดี่ยว
ชื่อนี้การันตีคุณภาพและความเสถียรครับ
ส่วนกรองที่ร้านเปลี่ยนจาก Certools เป็นของ Leaf ความละเอียด 3 ไมครอน
ช่วยยืดอายุหัวฉีดและเปลี่ยนทุกๆ 35,000 km.
งานทดสอบติดตั้งเริ่มด้วย Honda CR-V G3 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
ภาพรวมหลังติดตั้งชุด Stag-200 Go Fast เรียบร้อยแล้วก็แทบไม่แตกต่างจากชุดอื่น
หม้อต้มมีการ Upgrade ให้รับแรงม้าได้สูงขึ้นโดยเปลี่ยนเป็น Tomasetto รุ่น AT13
ตำแหน่งกรองแก๊สทำขายึดเพื่อความแน่นหนา
ตำแหน่งหัวฉีด Hana 2000 ติดตั้งพร้อมเก็บงานสายไฟสไตล์ Autogas Salon
ถังโดนัทขนาด 51 ลิตร มัลติวาล์ว AC by Tomasetto
ตำแหน่งสวิตซ์แก๊ส ดวงไฟสว่างดีครับ
ต่อด้วยคันที่ 2 ติดตั้งในรถ Nissan Almera 3 สูบ
ตำแหน่งหม้อต้ม Tomasetto AT09 ติดตั้งให้ง่ายต่อการ Service
กรองแก๊ส Leaf ขนาดค่อนข้างใหญ่จึงต้องทำขายึดติดตั้งให้แข็งแรง ถอดเปลี่ยนได้ง่าย
หัวฉีด Hana ใช้แบบหัวเดี่ยวเพื่อให้ตำแหน่งหัวฉีดอยู่ใกล้ท่อร่วมฯมากที่สุด
ความยาวท่อแก๊สจะยาวเท่าๆกัน ป้องกันอาการหน่วงหรือสะดุดเวลาออกตัว
ถังโดนัทลูกค้าเลือกขนาดเล็ก 33 ลิตรไม่ถ่วงท้าย
รถรุ่นนี้เติมเต็มถังยังวิ่งได้ถึง 300 กม.ครับ
ตำแหน่งสวิตซ์มีให้เลือกได้ 2 จุด
คันสุดท้ายเป็น All New Vios รุ่นยอดนิยมติดกันตั้งแต่ป้ายแดงไปเลย
งานติดตั้งทำกันจนชินแล้ว เรื่องตำแหน่งการยึดอุปกรณ์จึงใช้เวลาไม่นานครับ
ตำแหน่งกรองแก๊สมีที่ว่างเหลือเฟือสำหรับรุ่นนี้
ตำแหน่งรางหัวฉีดติดตั้งด้านนอกให้ตรวจสอบเช็ครั่วได้ง่าย
และไม่เกิดการกดทับของสายไฟและลดความร้อนของเครื่องยนต์ที่อาจทำให้อายุการใช้งานของหัวฉีดสั้นลง
ถังเลือกใช้โดนัทขนาด 48 ลิตรพร้อมมัลติวาล์ว OMB
ด้านล่างเราเก็บงานให้หมดทั้งจุดยึดและพ่นกันสนิมตบท้าย
ติดตั้งเสร็จนำรถทั้ง 3 คันออกวิ่งจูน Real time เพื่อทดสอบโปรแกรมจูนของ Stag-200 Go Fast
การ Set up ค่า Parameter ต่างๆในโปรแกรมดูเหมือนจะน้อย
แต่มีลูกเล่นค่อนข้างจะครบเครื่องเลยละครับ
เริ่มจากหน้า Setting ในกรอบสีแดงก่อนคือ การตั้งค่าพื้นฐานของรถที่ติดตั้งและการตั้งชนิดของอุปกรณ์ที่ใช้
หน้าโปรแกรมค่อนข้างดูง่ายเพราะทำเป็น Icon รูปภาพ
การตั้งค่าก็เหมือนกับ Stag รุ่นอื่นๆคือ เลือกชนิดของหัวฉีด เกจ์แก๊สและ Sensor ให้ตรงกับที่ใช้งานจริง
AC มีประเภทของหัวฉีดให้เลือกเยอะที่สุดอยู่แล้ว แต่รุ่นนี้มาพร้อมชุดหัวฉีด Hana 2000 ก็แค่เลือกสีของหัวฉีดให้ตรงกับที่ใช้
และต้องเลือกประเภทของเครื่องยนต์ ชนิดเชื้อเพลิงที่ใช้ และสัญญาณวัดรอบให้ตรงกันด้วย
ส่วนกรอบด้านล่างจะเป็นการตั้งค่าการเปลี่ยนเชื้อเพลิงน้ำมัน-แก๊ส/แก๊ส-น้ำมัน
สามารถตั้งเปลี่ยนตามอุณหภูมิหม้อต้มและรอบเครื่องยนต์ได้ตามที่เราต้องการครับ
ส่วนกรอบด้านขวาจะเป็นการตั้งรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติม
เช่น ตั้งปริมาณการฉีดของหัวฉีดแก๊ส แยกเป็นสูบ เพิ่ม-ลดเป็น% ได้
ตั้งความละเอียดของเกจ์แก๊สให้อ่อน-แก่ได้
โหมด RPM Sensitivity สำหรับปรับแก้สัญญาณวัดรอบกระโดดในรถบางรุ่น
สามารถตั้ง Extra Injection ตัดพัลส์การฉีดสั้นได้ และ Injection Handling สำหรับรถตระกูล Mazda
และสามารถตั้งโหมด Pressure release เพื่อรักษาระดับแรงดันแก๊สในระบบหากมีแรงดันสูงเกินมาตรฐาน
ส่วนฟังชั่น VAG ไม่จำเป็นต้องใช้ในบ้านเราเพราะเอาไว้ใช้ปรับลดแก๊สสำหรับประเทศที่มีอากาศหนาวมากๆครับ
โปรแกรมยังเพิ่มการตรวจสอบ Diagnostics ทั้งตัวหัวฉีด โซลินอยด์ปิด-เปิด และเสียงสวิตซ์
อนาคตหากอุปกรณ์ตัวไหนไม่ทำงาน เราก็สามารถกดเลือกเช็คได้
การ Auto Calibration สำหรับกล่องรุ่นนี้มีฟังชั่นที่สำคัญเพิ่มเติมที่ควรตั้งให้ถูกต้องก่อนการจูน
ส่วนที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของกล่องที่จะประมวลผลหาค่ากลางออกมาเพื่อใช้ในการจูนละเอียดต่อไป
Stag-200 Go Fast ไม่สามารถปรับแรงดันใช้งานหลังการ Auto Calibration ได้
จึงต้องปรับตั้งค่า Operational Pressure เป็นค่าแรงดันเริ่มต้นใช้งานให้เท่ากับแรงดันจริงที่รอบเดินเบาก่อนเสมอ
และต้องตั้งค่า Calib. Gas Temp เป็นค่าอุณหภูมิแก๊สตอนที่เรา Auto Calibration ด้วย
เพราะ 2 ค่านี้จะมีผลโดยตรงกับการ Compensate ค่าการจ่ายแก๊สตามการแปรผันของอุณหภมิและแรงดันแก๊สขณะใช้งานครับ
ค่าที่ได้หลัง Auto Calibration เป็นค่าที่เชื่อถือได้น้อยครับ ควรอย่างยิ่งที่ต้องปรับจูนเทียบโหลดให้ละเอียดอีกครั้ง
จุดที่สำคัญคือ การจูนแก๊สช่วงรอบเดินเบาไล่ตามภาระโหลดต่างๆในขณะรถจอด
แล้วจึงค่อยจูนช่วง Close Loop และ Open Loop ปิดท้าย
การปรับค่าของกล่อง Stag-200 Go Fast ถือว่าทำได้ดีมากครับ
ปรับค่าแล้วจุดในการเก็บข้อมูลสามารถ Update ค่าได้เร็วกว่ากล่องรุ่นเดิมมาก
จุดมีการพล็อตเป็นสีจางๆก่อน หากวิ่งจนได้ค่าที่แน่นอนแล้วจุดจะมีสีเข้มและเม็ดใหญ่ขึ้น
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ ฟังชั่น Multiplier auto-match
โดยเราสามารถกดปุ่มทางขวาเพื่อให้โปรแกรมช่วย Match เส้นกราฟให้กราฟแก๊สมาทับกับน้ำมันได้
หรือเราสามารถตั้งค่านี้ได้ที่หน้า Auto Calibration เป็นจำนวนครั้งที่โปรแกรมจะ auto-match ให้
แต่เราต้องวิ่งเก็บค่าทั้งน้ำมันและแก๊สให้ครบก่อนจึงจะสามารถใช้ฟังชั่นนี้ได้
ซึ่งเราสามารถดูค่าที่เก็บได้จากเส้นสีเขียวและน้ำเงินอยู่ด้านขวาของตาราง Map ครับ
และลูกเล่นอีกตัวที่เพิ่มเข้ามาช่วยจูนคือ RPM Correction
ทำให้กล่องรุ่นนี้สามารถจูนแบบ 3 มิติได้ละเอียดเหมือนกับ Stag-4 Eco
เท่านั้นไม่พอยังมีฟังชั่น Gas Temp Correction มาช่วยปรับชดเชยแก๊สตามอุณหภูมิได้อีก
ฟังชั่นจัดเต็มแบบนี้ถือว่าคุ้มแสนคุ้มครับสำหรับกล่องรุ่นนี้
สรุป การทำงานและประสิทธิภาพของกล่องถือว่าสอบผ่านได้สบายๆครับ
เปรียบเทียบแล้วเหมือนกับเอากล่อง Stag-200 กับ Stag-4 Eco มารวมกันโดยใช้ Ecu 32 bit เหมือน Stag-4 Q Box
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่กล่องจะทำงานได้ดีและเสถียรก็ต้องอาศัยผู้จูนที่มีความเข้าใจและสามารถตั้งค่าการใช้งานให้ถูกต้องก่อนจูนด้วยครับ