![](http://www.iwebgas.com/upic/ie.php/29f0a615a8421951.jpg)
ธุรกิจติดตั้งก๊าซรถยนต์บูมอีกระลอก ลูกค้าหนีน้ำมันแพงทำสินค้าขาดตลาด ชี้ความต้องการเพิ่มเท่าตัว เร่งนำเข้า เผยดีมานด์ทั่วโลกพุ่ง "เอสซีจี" หันรุกแอลพีจี จับมือดีลเลอร์รถติดตั้งอุปกรณ์ให้หลายรุ่น หวังชิงมาร์เก็ตแชร์หมื่นล้าน
ผลจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าหนีการใช้น้ำมัน แห่นำรถมาติดตั้งก๊าซทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี ส่งผลให้อุปกรณ์การติดตั้งขาดตลาด ผู้ประกอบการต้องเร่งออร์เดอร์จากต่างประเทศ บางค่ายมีเวสติ้งลิสต์เยอะมากถึงขนาดต้องสั่งแอร์เฟดอุปกรณ์กันเลยทีเดียว
นายแม่สาย ประภาสะวัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม เอส แฟคทอรี่ จำกัด "ผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ก๊าซรถยนต์ "เวอร์ซุส ไทยแลนด์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาพรวมของตลาดติดตั้งก๊าซรถยนต์ในปัจจุบันว่า จากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดติดตั้งชุดอุปกรณ์ก๊าซมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มียอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ในเดือนมกราคมมียอดขาย 2,000 ชุดต่อเดือน ในเดือนมีนาคมเพิ่มเป็น 5,000 ชุดต่อเดือน ทำให้บริษัทต้องเร่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งซัพพลายเออร์แต่ละรายก็จะใช้เวลาในการผลิตรวมส่งมอบตั้งแต่ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
"ตอนนี้ส่วนใหญ่ได้ความชัดเจนแล้วว่าภาครัฐจะปรับราคาเท่าไรทำให้คนตัดสินใจ ตลาดจึงมีการเติบโตที่ชัดเจน ซึ่งเราเองก็อยากจะสต๊อกสินค้าไว้ แต่ตอนนี้สั่งสินค้าเข้ามาเท่าไรก็ขายหมด" นายแม่สายกล่าว
บริษัทได้เตรียมลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เปิดศูนย์บริการติดตั้งก๊าซรถยนต์ "เวอร์ซุส" ขึ้นในกรุงเทพฯ รวม 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งศูนย์บริการดังกล่าว ประกอบด้วยห้องติดตั้ง ที่มีช่องให้บริการถึง 6 ช่อง พร้อมห้องรับรองลูกค้าที่มีมาตรฐาน แต่ละสาขาสามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 200 คันต่อเดือนเพื่อรองรับกับตลาดที่โตขึ้น
สำหรับภาพรวมของตลาดชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซนั้น คาดว่าในปีนี้ความต้องการจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000-30,000 คันต่อเดือน ใกล้เคียงกับในปีที่ผ่านมาก่อนเกิดวิกฤตน้ำท่วม ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายก็จะต้องพยายามชูจุดแข็ง เพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้มากขึ้น การทำตลาดก็ต้องทำร่วมกันทั้งผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์รวมถึงอู่ติดตั้งด้วย
ด้านนายสุรชัย นิตติวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ก๊าซรถยนต์ "เอนเนอร์จี รีฟอร์ม" จากประเทศอิตาลี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซนั้นขาดตลาด เนื่องจากความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนมีนาคมบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นราว 15-20% ทำให้ต้องเจรจากับบริษัทผู้ผลิตในอิตาลีให้เพิ่มกำลังการผลิตและส่งสินค้ามามากขึ้น
ซึ่งในระหว่างที่สินค้ายังขาดตลาด บริษัทจึงต้องนำเข้าสินค้าทางแอร์เฟดเพิ่ม จากเดิมที่นำเข้าทางเรือ เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอกับตลาด ยกเว้นถังโดนัทและถังแคปซูลบางรุ่น ที่ใช้ผู้ผลิตในประเทศเนื่องจากผ่านมาตรฐาน มอก.และมีราคาที่ถูกกว่า ซึ่งบริษัทก็มีซัพพลายเออร์ผู้ผลิตถังในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน
และในปีนี้บริษัทเตรียมนำเข้าและจำหน่ายชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซระบบเชื้อเพลิงร่วมสำหรับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล ภายใต้ชื่อ "Duo Diesel Fuel" หรือ "DDF" ซึ่งร่วมพัฒนารถยนต์กับบริษัทผู้ผลิตชุดอุปกรณ์ในอิตาลี จะนำเข้ามาทำตลาดในช่วงกลางปี เริ่มจำหน่ายชุดอุปกรณ์ดังกล่าวสำหรับรถยนต์ปิคอัพรุ่นโตโยต้า วีโก้ และอีซูซุ ดีแมคซ์ ก่อนที่จะพัฒนาสำหรับรถปิคอัพดีเซลรุ่นอื่น ๆ เพิ่ม เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ใช้รถยนต์ดีเซลด้วย
ขณะที่นายภัทรวุฒิ เยี่ยมสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ก๊าซ ภายใต้แบรนด์ "เอซี" จากประเทศโปแลนด์ เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคมบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับช่วงปลายปี ทำให้ต้องสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ในประเทศโปแลนด์และอิตาลีมากขึ้น ซึ่งทางซัพพลายเออร์ของบริษัทเองก็ต้องเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเป็น 3 เท่า มีการเดินเครื่องผลิตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนองกับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 25% ประกอบกับนโยบายการปรับราคาก๊าซของภาครัฐที่กำหนดให้ราคาก๊าซสูงสุดไม่เกิน 16.50 บาท ทำให้ผู้บริโภคหันมาติดตั้งชุดอุปกรณ์ก๊าซมากขึ้น ยอดการติดตั้งตลาดรวมน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาจาก 20,000 เป็น 40,000 คันต่อเดือน
นายอภิสิทธิ์ ธนาดำรงศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ออโต้แก๊ส จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์ก๊าซจากประเทศอิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ภายใต้แบรนด์ "เอสซีจี" เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมรุกตลาดติดตั้งก๊าซอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเอ็นจีวีและแอลพีจี เนื่องจากแนวโน้มการเปิดสถานีบริการสำหรับแอลพีจีที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทจึงเตรียมร่วมกับดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์ ติดตั้งชุดอุปกรณ์แอลพีจีให้แก่ลูกค้า ทั้งรุ่นโตโยต้า วีออส และวีโก้ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ และปาเจโร่สปอร์ต โดยตั้งเป้ายอดขายชุดอุปกรณ์แอลพีจีที่ 3,000 คันต่อเดือน และเอ็นจีวีที่ 1,200 คันต่อเดือน โดยมีจุดเด่นที่ดีกว่าที่ลูกค้านำไปติดตั้งที่อู่ทั่วไปคือ มีการรับประกัน 3 ปี ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการติดตั้งและการรั่วของถังอย่างละเอียด และสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ได้
นอกจากนี้ยังมีตลาดโอเอ็มที่ติดตั้งชุดอุปกรณ์ให้กับโตโยต้า วีโก้ มิตซูบิชิรุ่นไทรทัน ซีเอ็นจี และแลนเซอร์ ซีเอ็นจีด้วย โดยในปลายปีนี้อาจจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ให้บริษัทอื่น ๆ เพิ่มด้วย ส่วนศูนย์บริการนั้น บริษัทมีแผนจะลงทุนราว 124 ล้านบาท เพื่อเปิดในกรุงเทพฯให้ครบ 5 แห่ง ส่วนในต่างจังหวัดจะเปิดให้ครบ 7 แห่ง
ทำให้สัดส่วนยอดขายชุดอุปกรณ์ในปีนี้เปลี่ยนจากเอ็นจีวี 90% แอลพีจี 10% เป็นแอลพีจี 60% และเอ็นจีวี 40% และมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,400 ล้านบาท มีมาร์เก็ตแชร์ในตลาด 17-20% เดิมบริษัทจะติดตั้งชุดอุปกรณ์เอ็นจีวีมากกว่าแอลพีจี มีสัดส่วนอยู่ที่ 90% และ 10% ตามลำดับ มีโรงงาน 3 แห่งคือ รังสิต คลอง 4, แสมดำและเกตเวย์ มีกำลังการผลิตรวมที่ 4,000 คันต่อเดือน
สำหรับภาพรวมของธุรกิจติดตั้งก๊าซนั้น ในแต่ละปีตลาดชุดอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% ในปีที่ผ่านมามีมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท จากแนวโน้มสถานีบริการโดยเฉพาะแอลพีจีที่เพิ่มขึ้นหลายราย ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาก๊าซยังมีส่วนต่างกับน้ำมันถึง 3 เท่า ทำให้ในปีนี้ตลาดติดตั้งก๊าซจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
เนื้อข่าวที่มา :
www.prachachat.net