อุทาหรณ์สำหรับเพื่อนสมาชิกเวปที่สนใจเรื่องการติดแก๊ส แล้วกำลังคิดว่าจะติดแก๊สให้กับรถของท่าน
โปรดอ่านกรณีของผมเสียก่อนครับ เพื่อให้ท่านได้ระมัดระวังตัวท่านได้ไม่เจอแบบผม
ก่อนหน้านี้ผมได้รถ Benz E240 W211 มา คันหนึ่ง ก็ตั้งใจว่า จะเอาไปติดแก๊ส ทางอู่แถวนนทบุรี
ซึ่งรู้จักกับพี่ผมคนนึง ได้แนะนำให้ติดแก๊สยี่ห้อ Lovato สำหรับรถยนต์ 6 สูบ ซึ่งเดิมทีผมอยู่ใน mercedesmania
เห็นเพื่อนสมาชิกมักเอาไปติดกันที่ Benz อมร ด้วยแก๊ส Energy Reform แล้วจบ ไม่มีปัญหา แต่ก็นะ ผมก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องแก๊ส
ทางพี่ผมก็เลยให้ทางอู่ซึ่งแนะนำ Lovato มา ติดตั้งตัว Top รุ่น OBD ให้พร้อมถังโดนัท
เบื้องต้นที่ผมเข้าไปดู พบว่า คนติดตั้งเหมือนเป็นเด็กใหม่ในอู่ แต่ช่างเก่าๆดูมีประสพการณ์กลับไปติดแต่รถญี่ปุ่น
ก็จะมีเจ้าของอู่เดินมาแวะเวียนดูบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรปล่อยไป
การติดตั้งครั้งนี้ใช้เวลา 2 วัน
เมื่อติดตั้งเรียบร้อย ผมเอาออกมาวิ่งปรากฏว่า วิ่งแค่จากแถวบางซื่อไปลาดปลาเค้า ดับ 6 7 รอบ ในช่วงรอบเบา
ดับคาแยกบ้าง จอดติดแล้วดับบ้าง เลี้ยวเข้าซอยอยู่ๆดับบ้าง
ครั้งต่อมาผมเอาไปให้ช่างอู่เดิมแก้ ก็ปรากฏว่า ไม่ว่าช่างใหม่ หรือช่างเก่า มารุม ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ครั้งนี้ผมสังเกตว่า รอบในคอมพิวเตอร์กับรอบจริงของเครื่องที่อ่านจากหน้าปัด ไม่ตรงกัน
ของหน้าปัทรถ ขึ้นที่ 700 รอบ
แต่ในคอมพิวเตอร์ขึ้น 1400 รอบ บางทีก็กระโดดไป 5 6000 รอบ หรือ 9000 รอบก็มี
และได้ไล่เอาหัวเหล็กจิ้มแทงเข้าไปที่สายไฟของรถ ด้านกระโปรงหน้า ทุกเส้น จนรู้สึกว่าจะขาดในไป 1 เส้น แล้วได้แก้โดยการบักกรีใหม่ให้ผม
ส่วนสายไฟที่เหลือ สภาพหงิกๆงอๆ เพราะโดนหัวเหล็กทิ่มเข้าไปหมดทุกเส้น
จนผมรู้สึกว่า ทำอะไรกับรถผมเนี่ยะ ช่างไม่มีความรู้ทำไมมาปล่อยให้ทำ ถ้าไม่เคยทำรถยุโรปแล้วมาแนะนำทำไม
ระหว่างนั้น มีคนจากทาง Lovato มาส่งชุดติดตั้งแก๊สให้กับอู่ ช่างจึงเรียกมาร่วมวงสังคายนา ก็พยายามมาจูนก็แก้ปัญหาไม่ได้
สุดท้าย ไปจั๊มพ์รอบออกมาจากสายคอยล์สูบ 1 โดยเอามีดกรีดสายออกแล้วเอาสายต่อรอบของแก๊สเข้ามาพัน
ผมนึกในใจครับว่า สายคอยล์ Benz ชุดนี้จะกี่พัน ทำไมถึงเล่นกันง่ายๆแบบนี้เลย คิดจะปอกก็ปอก คิดจะผ่าก็ผ่าเลย
รอบนี้ ช่างไม่มีผ้ามาปิดด้านหน้า เหมือนก่อน ช่างเข้าๆออกๆ รอบนี้ น้ำมันเปรอะทั้งนอกรถ ทั้งพรมเต็มไปหมด
หลังจากนั้น ปรากฏว่าหลังจากเอามาวิ่ง รอบต่ำหมดปัญหา แต่ไปมีปัญหาตอนความเร็วสูง
ผมวิ่งไปนครปฐม วิ่งเข้าเลนขวา ความเร็วช่วง 100-120 มองไม่ทันว่าเท่าไร
แต่อยู่ดีๆ รอบตกฮวบ... เครื่องดับ รถจี้หลังผมเป็นขบวน แทบจะทิ่มตูด เพราะความเร็วสูง และเลนขวาด้วย
นึกในใจว่า นี่ถ้าซวย ไปดับตอนจะแซงแล้วไม่พ้น คงไปเยี่ยมยมบาลแทน
หลังจากการเข้าอู่ครั้งหลังผมคิดว่า ถ้าเอาเข้าอู่อีก นอกจากรถจะสะบักสะบอมแล้ว ผมอาจจะไม่ต้องซ่อมแก๊สอีก เพราะคงไปเป็นสัมภเวสีก่อน
เลยติดต่อตรงไปที่ศูนย์ Lovato ใหญ่ บริษัทไทยเยอรมัน ที่แถวพุทธมนฑล สาย 5 ซ. วัดท่าไม้
เพราะคิดว่า ถ้าอู่เอาไม่อยู่ เข้าศูนย์ดีกว่า ถ้าที่นี่ไม่ได้คงไม่ต้องทำกันละ รื้อทิ้งได้อย่างเดียว สำหรับยี่ห้อนี้
วันแรกผมเอารถเข้าไป ช่างไล่เช็คไป ช่างบอกว่า มาที่นี่ยังไงก็จบ จะทำให้จบให้ได้ ส่วนผมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
เพราะผมเอง เคยมีปัญหากับอู่ Benz ที่นึง ที่อยู่ดีๆ ทำชิ้นส่วนของรถหายไป แล้วต้องมาเถียงกันว่า ชิ้นส่วนตอนเข้ามันมีหรือไม่มี
ผมจึงต้องถ่ายรูปรอบคันไว้ ตอนนั้นในใจผมนึกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถ่ายตรงไหน เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า มันจะมีปัญหากับส่วนไหนของรถ แต่ก็ถ่ายๆไป
ซึ่งผมมักจะถ่ายรูปรถผมไว้เรื่อยๆอยู่แล้ว ไม่ว่ารถอยู่ที่ไหน เนื่องจากปัญหาชิ้นส่วนที่เคยว่าไป
หลังจากช่างเช็คแล้วก็บอกว่าให้เอารถไว้ที่ศูนย์อีก 1 คืน ซึ่งผมก็ตกลง คิดว่าถ้าแก้ได้จะได้จบๆไป
หลังจากนั้น วันรุ่งขึ้น จนเย็นช่างก็ไม่ติดต่อกลับ ผมติดต่อไปตั้งแต่บ่ายๆ ไม่โทรกลับ สุดท้าย ผมติดต่ออีกครั้ง ได้ตอนราวๆ เกือบสี่โมงเย็น
ช่างบอกว่า ขอต่อ โดยให้เอารถทิ้งไว้อีก 1 วัน แต่ผมกลับรู้สึกว่า ถ้าช่างจะแก้ได้จริง ไม่น่าจะต้องนานขนาด 3 วัน มันเยอะไป
เพราะผมก็ไปจูนมาแล้ว 1 รอบ นี่ยังไม่รวมเวลาติดตั้ง รวมๆนี่มัน 5 วันแล้วที่ผมไม่ได้ทำอะไร ต้องไปนั่งเฝ้าติดและจูนแก๊ส
พอผมไปถึงที่ศูนย์ ปรากฏว่า ช่างไม่อยู่ รถผมอุ่นๆ เหมือนเพิ่งโดนวิ่งมา ช่างบอกผมว่า แกลองแล้ว รอบนี้ได้ย้ายตำแหน่งที่ตั้ง
หัวฉีดให้เข้าไปใกล้ท่อที่ลงไอดี โดยใช้หัวโซลินอยเดี่ยวๆ ยัดไปตามช่องต่างๆของเครื่อง ซึ่งเดิมเป็นรางขนาด 3 หัว 2 ราง
เนื่องจากช่างบอกว่า ระยะห่างโซลินอยมันอาจจะไกลไป และระยะไม่เท่ากัน ในแต่ละสูบ ระหว่างที่ผมทดสอบรถ โดยมีช่างและพี่ผมอีกคนนั่งไปด้วย
พี่ผมชี้ให้ดูว่า มีรอยร้าวอยู่ที่กระจกหน้า ขนาดประมาณ 1cm อยู่บริเวณใกล้กับกระจกมองหลัง พอถามช่าง ช่างเงียบๆบอกปัดเหมือนว่าไม่รู้ไม่เห็นแล้วก็เงียบไป
วันนั้น ผมได้ขอเอารถกลับบ้านก่อน ไม่ทิ้งไว้แล้วแน่นอน ก็ได้มา 1 แผลแล้ว ก็ปรากฏว่า อาการเดิมแก๊ส ดับรอบต่ำ
วันรุ่งขึ้นผมเลยโทรเข้าศูนย์ Lovato แล้วบอกไปว่า ขอให้คนที่มีอำนาจตัดสินใจ มาคุยสายกับผม
ผมบอกว่า ผมเสียเวลาไป 5 วันกับแก๊ส Lovato อาการเหมือนวันแรกที่ติดมาแล้วมีปัญหา
ผมไม่สบอารมณ์ จะรื้อทิ้งแล้ว นอกจากนี้ ที่ผมเอารถเข้าศูนย์คุณทิ้งไว้หนึ่งคืน เมื่อวานไปเอากลับมาได้รอยร้าวมาแถมที่กระจกอีก 1 รอย
แถมวันนี้ผมดูเหมือนว่ารอยมันจะชัดเจนขึ้นอีก คือดูลึกขึ้น
ผู้หญิงคนที่มารับสายผม โทรกลับภายหลังบอกว่า ให้เอารถเข้ามาอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้นผมจึงได้เอารถเข้าไปอีก ตั้งแต่เช้า ผมบอกไปว่า ถ้ารอบนี้ใช้ไม่ได้ ผมรื้อแล้ว ผมรำคาญ
ช่างได้รื้อระบบสายไฟออก และบอกมีสายบางเส้น มันต่อแปลกๆ ก็แก้ไขใหม่ ตอนราวๆ บ่ายสามก็ให้ผมวิ่งเทส
ก็ยังไม่พบอาการดับอะไร พอตกเย็น ผมจึงคุยกับผู้หญิงที่รับสายผม ว่าสรุปส่วนของแก๊ส ผมไม่รู้ว่ามันใช้ได้หรือยัง
แต่ก็ตามที่ผมบอก ถ้ารอบนี้ไม่ได้ผมคงรื้อออก และผมได้ถามถึงรอยร้าวที่กระจกที่เกิดขึ้นจากการเอารถมาเข้าอู่
ทางผู้หญิงคนนี้ตอบผมว่า อ้าววว ได้คุยเมื่อวานทางโทรศัพท์แจ้งว่า รถมีรอยร้าวหน้ารถอยู่ก่อนแล้ว
ผมก็ตอบว่า ผมนี่แหล่ะคุยกับคุณ แต่ผมไม่ได้บอกว่า รอยร้าวมันมีอยู่แล้ว แต่ผมบอกว่ากลับมาจากอู่คุณ รถผมได้แผลที่กระจกมา 1 รอย
ถ้ารถผมร้าวอยู่แล้ว ผมจะบอกคุณทำไม
ก็ตอบผมว่า ก็ได้ยินว่า มีรอยร้าวอยู่เดิมแล้ว แล้วรอยมันขยาย
ผมก็บอกว่าไม่ใช่ และย้ำว่ารอยได้มาจากอู่ และผมบอกว่า ผมมีหลักฐานจากกล้อง เพราะก็เห็นอยู่ว่าผมเดินถ่ายรถตัวเองอยุ่ประจำ
ถ้าจะพิสูจน์ก็ได้...
ทางผู้หญิงคนนี้บอกผมว่า ช่างเองก็วิ่งเทสแต่ในพื้นที่ของศูนย์เท่านั้น ไม่ได้ออกไปไหน
ผมก็บอกว่า ผมเติมแก๊สไปครั้งแรก 200 บาท ไม่รวมของเก่าครั้งแรก และเติมอีก 300 บาท และไม่รวมเติมสุดท้ายอีกครั้ง
ที่แน่ๆ ระหว่างค้างคืน ช่างใช้แก๊สไปราวๆ 500 บาท
กับระยะทางภายในศูนย์ แค่ ราวๆ 200 เมตร ผมก็ถามท่านผู้อ่านแล้วกันว่า ท่านเชื่อหรือเปล่า ว่า ช่างวิ่งอยู่ในระยะ 200 m กลับรถวนไปๆมาๆ จนแก๊สหมด 500 บาทได้จริง
ถ้าท่านจะกรุณาคำนวน ก็ลองคำนวนดูครับว่าช่างวิ่งวนไปๆมาๆกี่รอบ แต่สำหรับผม ผมไม่เชื่อครับ ว่าช่างไม่ได้เอารถออกจากอู่
นอกจากนี้ ระหว่างพักเที่ยง ผมบังเอิญกลับมาจากทานข้าว ก็ได้ยินช่างยืนจับกลุ่ม แล้วพูดกันว่า
"เห้ย รถคันนี้ติดแก๊สยัง"
"เอารถลูกค้าไปใช้เหรอ"
ผมถามท่านผู้อ่านแล้วกันว่า คำพูดผู้หญิงท่านนี้ ผมควรจะเชื่อรึเปล่า?
สรุปก็คือผมก็บอกว่า เออ ไม่เป็นไร แล้วก็ขับรถออกมาด้วยอาการไม่สบอารมณ์เท่าไร ก็เค้าไม่รับผิดชอบ จะให้ผมไปทู่ซี้เหรอ
พี่ผมบอกว่า เออ เอากลับมาทำเอง ช่างมัน อย่าไปอารมณ์เสียหงุดหงิดเปล่าๆ ไม่คุ้มที่ต้องเครียด
ผมไม่ทราบ ว่าเขาคิดว่าผมอยากจะได้กระจกหน้าใหม่รึยังไง เลยไปโทษเขารึยังไง ถ้าคิดอย่างนี้ก็บ้าเต็มที
เอาวะ อย่างมากค่ากระจกก็หลักหมื่น มีปัญญาจ่าย ถือว่า โง่ที่มาใช้ศูนย์บริการนี้ และแก๊สยี่ห้อนี้
จะได้ตัดปัญหาเลยว่า อย่ามาหาว่าผมมาเรียกร้องเพื่อจะอยากได้กระจกใหม่
สำหรับคนเล่น Benz คงทราบ ชิ้นส่วนที่มากับรถ ดีที่สุด สำหรับผม อยากได้กระจกเก่าในสภาพก่อนเข้าอู่คืน มากกว่า อยากได้กระจกใหม่
และก็ที่ผมเขียนให้ทุกท่านอ่าน ไม่ได้ต้องการให้เค้ามารับผิดชอบกระจกภายหลังนะครับ
ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า ไม่ต้องมารับผิดชอบผม ไม่ต้องมาเคลียกันตามหลัง แต่ถ้าจะให้พิสูจน์ภาพถ่าย ก็มีหลักฐานให้พิสูจน์ ตามที่ผมได้บอกไป
สุดท้าย ผมเสียเวลาไปเป็นวันที่ 6 ในการทำแก๊สอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร งานการ เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียค่าน้ำมัน แถมกระจกร้าวมาให้ พร้อมกับแก๊สที่ผมไม่ทราบว่าจะใช้งานได้ไม่ได้
ถ้าไม่ได้ ผมก็ถอดทิ้ง ถือว่าจบแค่ตรงนี้
ถือว่า ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณกันเอาเอง นี่คือสิ่งที่ผมพบเจอ ผมไม่ได้ต้องการให้ใครมาชดใช้ผม แต่ถ้าจะฟ้องร้องผม ผมพร้อม ผมมีพยานและหลักฐานไปชนด้วย
แต่ถ้าคุณแพ้คดี จะได้เลิกทำแบรนด์ของคุณไปเลย แต่คงต้องเปลี่ยนชื่อบริษัทด้วย
เพราะผมไม่ได้มา ดิสเครดิตศูนย์ Lovato แต่เกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ผมไม่เคยรู้จักคุณ ผมเป็นเพียงแค่ลูกค้าคุณ ที่มาติดกับปัญหาขอคุณ
และทาง Lovato เองทราบอยู่แล้วว่าผมเป็นใคร คันไหน ที่มีปัญหานี้ มีคนเดียวคันเดียว
ก็ถ้ารอบนี้ ผมใช้งานแก๊สยังไม่ได้ ก็ถ้าใครจะกรุณาผม รู้จักนักข่าวบอกผมหน่อยแล้วกัน
จะได้ถอดชุดทิ้งไปปาทิ้ง ที่หน้าบริษัทไทยเยอรมัน เพราะมันใช้งานไม่ได้จริงนี่ครับ และความรับผิดชอบรถลูกค้าก็ไม่มี
ขอบคุณที่ติดตามอ่านรายละเอียดอันยืดยาว ขอให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกท่านที่กำลังจะติดแก๊สแล้วกันครับ
ขออนุญาต admin สำหรับกระทู้นี้ เนื่องจากไม่ได้เป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่เป็นแค่การบอกเล่าประสบการณ์ไม่ดีที่ลูกค้าคนหนึ่งเจอ
เสียทั้งเงิน เวลา รถเสียหาย และสุดท้าย เสียอารมณ์
หากท่านติดต่อกับทางศูนย์ Lovato ท่านจะทราบเองว่า เคสนี้เกิดขึ้นจริง