"กองทุนน้ำมัน"ควักจ่ายค่าก๊าซ ปตท.เฮได้ชดเชยส่วนต่างราคา" ปตท .ได้เฮ หลังกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตัดสินใจทยอยใช้คืนหนี้ที่เกิดจากภาระการนำเข้า ก๊าซ LPG ทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่กว่า 7,900 ล้านบาท เริ่มเดือนเมษายนนี้ หลังจากกองทุนน้ำมันฯไม่ต้องรับภาระชดเชยภาษีสรรพสามิต มีรายได้ไหลเข้าบัญชี 3,500 ล้านบาท/เดือน มั่นใจ 2 ปีเคลียร์หนี้ก๊าซ LPG จบ ส่วนดีมานด์การใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์ลดลง แต่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกลับเพิ่มขึ้น
นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) หรือ สบพ. กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงการเตรียมใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อชดเชยการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2551 รวมทั้งสิ้นกว่า 7,900 ล้านบาทว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ สบพ.เป็นผู้ดำเนินการ ทางกองทุนน้ำมันฯก็จะเริ่มทยอยใช้หนี้คืนให้เป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน 2552 นี้ โดยจะทยอยจ่ายในระดับ 300-350 ล้านบาท/เดือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถชำระหนี้ให้กับบริษัท ปตท. ภายในระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้
ทั้งนี้กองทุนน้ำมันฯได้ลดภาระลง โดยเฉพาะจากการเข้าไปช่วยชะลอผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในช่วงสิ้น สุด 6 มาตรการก่อนหน้านี้ลง ด้วยการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯในอัตราเดิม ทำให้กองทุนน้ำมันฯมีรายรับต่อเดือนเพิ่มขึ้นในระดับปกติที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท/เดือน ส่งผลให้ตัวกองทุนมีศักยภาพเพียงพอที่จะจ่ายหนี้คืนให้บริษัท ปตท.ที่เข้าไปรับภาระ "ส่วนต่าง" จากการนำเข้าก๊าซ LPG เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยภาพรวมแล้วนับจากนี้กองทุนน้ำมันฯจะมีรายจ่ายเฉพาะเพื่อชดเชยให้กับก๊าซ LPG 2 ส่วนคือ ส่วนแรก หนี้ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าก๊าซในปี 2552 กับส่วนที่สองคือ หนี้เก่าที่เกิดขึ้นจากการนำเข้าก๊าซในปี 2551
" เรามั่นใจจากระดับ income ที่เข้ามาในแต่ละเดือนเริ่มปกติ จึงตัดสินใจที่จะชำระหนี้ค่าชดเชยก๊าซคืนให้กับ ปตท. ส่วนหนี้ใหม่ที่กำหนดจ่ายคืนให้แบบเดือนต่อเดือนนั้น แม้ว่า ปตท.จะมีการนำเข้าก๊าซ LPG มาตั้งแต่เดือนมกราคมและในเดือนมีนาคมมีเข้ามาล่าสุดนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นเรื่องเข้ามาเพื่อขอเคลมหนี้ดังกล่าว ซึ่งกองทุนน้ำมันฯมีความพร้อมอยู่แล้ว"
นายศิวะนันท์กล่าวเพิ่มเติม ว่า สำหรับภาระหลักๆ ของกองทุนน้ำมันฯ นอกเหนือจากการชดเชยราคาก๊าซ LPG แล้ว ยังมีหนี้ที่เกิดจากการเข้าไปชดเชยราคาพลังงานทดแทน ทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลที่มีภาระค้างจ่ายอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนี้สะสมที่ต้องจ่ายให้กับโรงกลั่นที่ลงทุนปรับปรุงการกลั่น ให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 4 ก่อนครบกำหนดอีกประมาณ 521 ล้านบาท ภาพรวมของสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันนี้ยังมีหนี้ค้างจ่ายรวมประมาณ 3,093 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีเงินสดอยู่ในบัญชีประมาณ 20,000 ล้านบาท
ล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า มีความต้องการอยู่ที่ 10.53 ล้านกิโลกรัม/วัน ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก หลังจากที่การใช้หดตัวลงมาแล้วกว่า 4 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐ ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซปรับลดลงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2551 ส่งผลให้บริษัท ปตท.เคมีคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่หยุดการผลิตชั่วคราว
หลังจากนั้นความ ต้องการใช้ก๊าซได้ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม 2552 โดยการใช้ในภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นจาก 0.5 ล้านกิโลกรัม/วัน มาอยู่ที่ 1.5 ล้านกิโลกรัม ในขณะที่การใช้ก๊าซ LPG ในรถยนต์กลับลดลงต่อเนื่อง เพราะผู้ใช้หันไปเติมน้ำมันวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4089