ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
เมื่อ: มิถุนายน 22, 2014, 08:28:07 PM
|
chaipat004
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 19
|
|
« เมื่อ: มิถุนายน 22, 2014, 08:28:07 PM » |
|
สวัสดีครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ รายละเอียด AC 300 Premium หม้อต้อ Tomasetto หัวฉีด valtek type 30 bfc ใส่วงจรตัดปั๊มติ๊กด้วยครับ ติดรถ Honda City 2012 ใช้มา 50000 km แล้วครับ
วาล์วยันไปแล้วไปตั้งวาว์ลมาเรียบร้อย เลยหันมาศึกษาอย่างจริงจังเรื่องแก๊สพบว่า ช่างหมกงานไว้บานเลย...ไม่เลือกหัวฉีดให้ตรง ไม่จูนติ๊ก OBD แล้วปล่อยรถให้ลูกค้าเลย บลาๆๆๆ
และผมมีคำถามมาถามท่านผู้รู้ครับว่า
1.ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 (หันหน้าเข้าห้องเครื่อง) แบบนี้ต่อสลับใช่ไหมครับ เราจะตรวจสอบได้อย่างไรครับว่าเค้าต่อมาถูกต้องแล้วหรือยัง
2.ช่างตั้งแรงดันไว้ 1.4 bar ผมลองลดแรงดันไปที่ 1.2 bar แล้วทำการ Auto tune ใหม่ ก็วิ่งดีแต่ เวลา kick down มีอาการสะดุด สะอึก ที่รอบเครื่องสูงๆ ทั้งๆที่กราฟแก๊สกับน้ำมันทับกันแล้ว แต่ตัวคูณ สูงไปถึง 1.6 คาดว่าเจาะรูหัวฉีดมาเล็กไป หรือ ไม่เจาะเลย (มีข้อความ error ด้วยครับว่า gas injectors full open !! Check lambda sensor in full engine load)
3.ขนาดรูหัวฉีด เจาะเท่าไรดีครับสำหรับคนเท้าหนัก แต่เครื่องยนต์เดิมๆครับ
4.ช่อง lambda type เลือกเป็นอันไหนครับ ของเครื่องยนต์ตัวนี้ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:18:58 AM
|
newguy
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:18:58 AM » |
|
คัดลอกในคู่มือ Ac มาฝากครับ ขอแจมเรื่อง ข้อ2. นะครับ นั่นเป็นเหตุที่ช่างตั้งแรงดันไว้ที่ 1.4 bar (ชดเชยกับการไม่เจาะขยายรูหัวฉีดเพิ่ม ซึ่งอาจมีเหตุผลอย่างอื่นร่วมด้วยถ้าเลือกที่จะใช้แรงดันสูงกว่า เพื่อปรับสัมพันธภาพของปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิง) ถ้าเราจะปรับแรงดันด้วยเหตุผลของเรา เพื่อให้ตรงตามเสปคที่หม้อตัมแนะนำที่ 1.0-1.2 ละก็ ก็คงจำเป็นต้องขยายขนาดรูการจ่าย (หัวฉีดแบบเจาะ) หรือขยับเบอร์หัวฉีดแบบเบอร์สสี Label ทำไมถึงมีอาการและ Error ขึ้นว่า Full Open ก็เพราะว่า เมื่อใช้แรงดันออกไปแนวแรงดันต่ำ แต่ไม่ต่ำกว่าเสปคหรือสูงแต่ไม่สูงเกินกว่าเสปคที่ทำงานได้ดีของ Hardware ขนาดรูการจ่ายมีผลสัมพันธ์กันในเรื่องปริมาณของเชื้อเพลิงต่อการเปิด 1 ครั้ง (ระยะเวลาการยกเปิดหัวฉีดนานกว่าทีรูเล็ก และน้อยกว่าที่รูใหญ่ เพื่อจะได้ปริมาณเชื้อเพลิงปริมาณที่เท่ากันตามต้องการ ของ 2 ตัวอย่างนี้) และการเลือกที่จะใช้แรงดันให้ต่ำหรือสูงกว่าค่ากลางที่สมดุลย์กันดี ก็จะไปมีผลอื่นที่เป็น Side Effect ตามมาอีก เช่น หากเจาะรูใหญ่มาก และปรับแรงดันให้ปล่อยน้อย ก็จะได้ ปริมาณพอดีกันได้ แต่ก็จะไปมีผลข้างเคียงอย่างอื่นเพิ่มเล็กน้อยเช่น เดินเบาสั่น อาการเดินเบาสั่นแบบเหตุนั้น เหตุเพราะ แรงดันหม้อต้มบางลูกบางทีก็มีระยะสวิงกว้างมากในการใช้งานปรกติ ( หรือเกิดจากกรองเริ่มไม่สะดวก ) การสวิงกว้างเพียงเล็กน้อยนิดเดียว ก็ทำให้การจ่ายเชื้อเพลิง Error ออกไป แบบสวิงมากในเชิงปริมาณได้ง่าย กว่า การปรับแรงดันสูงแล้วลดระยะเวลาการจ่ายสั้นลง จากที่กล่าวข้างต้นจึงเห็นได้ว่าแรงดันและรูการจ่ายควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ Redundancy กันดี ที่จุดที่พอเหมาะ (ส่วนเรื่องแค่ไหนดีเด๋วดูบรรทัดต่อไป) *** อะไรจะเป็นตัวกำหนดละว่า ปรับแรงดันแค่ไหนถึงเรียกว่าเหมาะสมแล้ว ก็ให้ดู Full Open นี่แหละเป็นตัวบอกได้ดีเลยในขั้นต้นของ User ที่เริ่มหัดลองเข้ามาจูน Full open error นี้จะบอกว่าเมื่อระยะเวลที่ ECU คำนวณการจ่ายออกมา เพื่อให้ได้เชื้อเพลิงในปริมาณที่ต้องการ แล้วจะต้องไม่มีระยะเวลาการยกที่นานเกินกว่า 20 ms. เพราะหากเกิน หัวฉีดจะปิดลงมาไม่ทันเมื่ออีกรอบการทำงานถูกสั่งเข้ามา เพราะฉนั้นเมื่อเราพบว่าการคำนวณเลยเถิดไปถึง Max Exceed ของระยะเวลาการยกที่ Hardware ทำได้แล้ว เราจึงต้องไปเพิ่มแรงดัน หรือ รูการจ่าย เพื่อปรับปริมาณการจ่ายให้ไม่ให้มีการยกหัวฉีดที่นานเกินไป โดยเลือกการปรับแรงดันและรูการจ่ายที่สัมพันธ์กันดีให้ลงตัวให้ได้ **** โดยเฉพาะหัวฉีดแบบยกช้าหรือ หัวฉีด ECO ซึ่งทำการยกได้ไม่เร็วเท่าพวกหัวฉีด ค่อนข้างราคา High ไปอีกหรือพวกฉีดตรง เนื่องจากมันยกได้ช้า ECU จึง fuzzy กับคนจูนด้วยว่า ให้กำหนด Type ชนิดของหัวฉีดให้ถูกต้อง หากไม่ถูกต้อง ECU ไม่สามารถเอาการคำนวณชดเชยช่วยเรื่อง กายภาพของหัวฉีดแต่ละแบบได้ตรง หรือที่เรียกกันว่า บุคคลิคของหัวฉีดแบบ ฝรั่งเรียก.. เมื่อเราเลือกกำหนด Type ของหัวฉีดในโปรแกรม set ได้ถูกต้องแล้ง ใน Dropdown Menu เราจะมองไม่เห็นตัวเลขที่ Hidden ไว้ใน Column ที่ 2 ของ Menu เพราะไม่โชว์ให้ แต่มีตัวเลขบอกแน่นอนว่า +- กี่เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ ECU สั่งบวกเพิ่มชดเชยถูกต้อง ยกตัวอย่างคำนวณทุกอย่างจนจบขั้นตอนสุดท้ายของ ECU จบลงที่ 12 ms. แต่เมื่อก่อนจะสั่งฉีดออกไป ECU จะเอาค่าชดเชยใน Type ของหัวฉีด ออกมาบวกเพิ่มเข้าไปอีก เช่น 12.0 ms + บวกเพิ่มอีก 16% (รวม =13.92 ms) ทำนองนี้ โดยเฉพาะหัวฉีดที่คุณใช้จะมีการเพิ่ม % ค่อนข้างไม่น้อยจากการทดลองของผมเอง (ไม่แม่นมาก) **** แต่ไม่ได้หมายความว่าหัวฉีดนี้ จะไม่ไดีหรือจ่ายไม่แม่นหรือประหยัดกว่าหรือกินกว่า ถ้ามีการขดเชยกันอย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว หากไม่เกิน Exceed ข้อจำกัดบางอย่าง ก็ให้ผลออกมาใกล้เคียงแม่นยำอยู่ดี เพียงแต่ในกรณีนี้การเพิ่มระยะเวลาการยกมากขึ้นแทนการปรับ Hardware 2 ทั้งแนวทางนั้น เมื่อ ECU ต้องให้ตัวเลขการคำนวณออกมาแนวตัวเลขมากแล้ว เมื่อต้องมาบวกชดเชย Type Compensate ของหัวฉีดอีก ตัวเลขที่ออกมาอาจชน Exceed more than 20 ms. ได้ง่ายก็เท่านั้น ทางแก้ก็คือ 2 สัมพันธภาพ (แรงดัน กับ - รูการจ่ายที่ลงตัว) นั่นเองครับ ขอจบคำตอบข้อ 2 . ก่อนครับ รูปที่ 2-3 เป็นตัวอย่างการ Compensate (ชดเชยระยะเวลาชนิดของหัวฉีดที่ต่างกัน ให้ผลการคำนวณต่างกัน และน่าจะมีการ Set Type ของหัวฉีดให้ตรงตามจริงเป็นอย่างยิ่ง)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:40:56 AM
|
ice
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:40:56 AM » |
|
1 แล้วแต่ครับ ขอแค่สูบที่เราตัดน้ำมันกับสูบที่เราเสียบหัวฉีดแกสตรงกันใช้ได้ครับ อันนี้เช็คโดยการตัดหัวฉีดในโปรแกรมทีละสูบ เครื่องจะไม่สะดุดครับแต่ต้องต่อปัีมติ๊กตรงก่อนนะครับ 2-3 ปกติ CITY 1500 cc รูเจาะ 2.1 มม ครับกะลังดีที่แรงดัน 1.2 บาร์ ทีนี้อาจจะเกิดจากหัวฉีดสกปรกครับ แนะนำให้เอาเข้ามาล้างทำความสะอาด ตั้งระยะใหม่ครับ เอาเข้ามาที่ผมได้ครับ หรืออยู่แถวไหนเอ่ย 4 ไม่แน่ใจว่าได้ต่อไหมครับ ปกติจะไม่ค่อยแนะนำให้ต่อครับ เนื่องจากสัญญษณอาจจะรบกวนการทำงานของกล่องรถ เพราะสายสัญญาณ O2 วิ่งแค่ 0-1 v ถ้าช่างต่อไม่ดีอาจจะมีการกวนสัญญาณ ได้ไม่คุ้มเสียครับ เพราะ O2 เราเอามาอ่านดูส่วนผสม เสียบ OBD อ่านง่ายกว่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:39:55 AM
|
chaipat004
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 19
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:39:55 AM » |
|
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะเลย ผมอยู่แถวบางพลีครับ ขอถามต่ออีก 1 เรื่องครับ เห็นยกตัวอย่างการคำนวนรูของหัวฉีดมา Honda city 2012 หัวฉีดเป็นแบบ Full sequential system หรอครับในโปรแกรมมันไม่ได้เลือกเป็นตัวนี้น่ะครับ แต่เป็น Sequential เฉยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:55:06 AM
|
newguy
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 11:55:06 AM » |
|
อันนี้ต้องรบกวน Ac หรือคุณ ICe มาตอบให้หน่อยละครับ เพราะหน้าที่คัดลอกมาเป็นคู่มือของ Ac เองครับ กลัวจะตอบไม่ละเอียดดีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:47:26 PM
|
เมืองใหม่รวมช่าง4x4แก๊ส
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 01:47:26 PM » |
|
รออยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เมืองใหม่รวมช่าง บริการติดตั้งแก๊สทุกยี่ห้อ และ รับดูแลแก้ไขปรับจูน หัวฉีดแก๊ส PRINS VSI NGV และ LPG ที่ติดตั้งจากศูนย์รถยนตร์ทุกยี่ห้อทั่วประเทศเช่น PROTON,VIGO โทร. 025314669 , 025315881 , 089-150-0660 MOUNGMAI4X4
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 07:22:45 PM
|
chaipat004
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 19
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 07:22:45 PM » |
|
รายงานความคบหน้าครับ ตอนนี้ลองสลับเป็น 1 2 3 4 แล้วลองสั่งปิดทีละหัวในโปรแกรม พบว่า มีอาการสั่นอย่างชัดเจน แต่พอเรียง 4 3 2 1 นั้นแทบจะไม่มีอาการ
ส่วนเรื่อง Full sequential system อันนี้ผมสับสนเองครับ ดูในโปรแกรมดีๆแล้วไม่มีให้เลือกในหัวข้อนี้ ตอนนี้อัพเกรด FW เป็น V10 พอเปิด OBD แล้วกราฟน้ำมันหาย แต่พอปิด OBD แล้วกราฟน้ำมันดันไม่ขึ้น ต้องวิ่งเก็บหราฟใหม่ เล่นเอาซะงงเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 07:44:05 PM
|
newguy
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 07:44:05 PM » |
|
ก็เอาอย่างนี้สิครับ ยังไม่รีบเปิด OBD ก็จูน Manual ออกมาให้ดีที่สุด พอได้ที่ทุกอย่างลงตัวดีหมดแล้วก็ Save ไฟล์เก็บไว้สักชุด พอเราไปเล่นอย่างอื่นสะเปะสะปะไปบ้าง เราจะได้กลับมา ณ. จุดที่ดีที่สุดก่อนเปิด OBD หรือทำอย่างอื่นได้ ไม่ต้องเหนื่อยมากไนับ 1 ใหม่ครับ อาจจะทำแบบนี้แล้วก็ได้ แต่เผื่อลืมครับผม..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 08:00:54 PM
|
chaipat004
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 19
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 08:00:54 PM » |
|
ขอบคุณมากครับ ก่อนเปิด OBD ก็เซฟเอาไว้ แต่พอปรับนู่นปรับนี้เลย ปรับแรงดันหม้อต้ม ก็เลยจูนใหม่ เลยคิดว่ามันน่าจะใช้ด้วยกันไม่ได้ เพราะเวลาจูน Auto แรงดันมันคนละค่ากันครับ แต่ที่แรงดันเดียวกันนี้น่าจะใช้ได้ ขอบคุณมากครับ จะได้ไม่ต้องวิ่งเก็บค่าใหม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 08:33:16 PM
|
newguy
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 08:33:16 PM » |
|
ไหนไหนก็ Autotune เองบ่อยได้ดังใจแล้ว อย่าลืมเรื่อง Gas Temp ให้ดีนะครับ โดยเฉลี่ยรถคุณอยู่แถว 60C. หรือไม่ (อุณหภูมิของเนื้อแก็ส) ถ้าอยู่ราวราวนั้น ก็พยายามดูในโปรแกรมหน่อยตอนทำ Autotune กะเวลาว่าพอมันทำเสร็จให้ Gas Temp ตกอยู่แถว 60 c. แต่หากรถคุณมีค่าเฉลี่ยอยู่องศาอื่นก็เอาตามนั้นนะครับ มันจะเป็นการเริ่มเก็บค่าที่ดี เพราะในอนาคตหากเข้าใจลึกมากเรื่อง Gas Temp ในการทำ Autotune ที่ดีแล้ว ส่วนใหญ่ก็กลับมาเริ่มใหม่หมดเพราะพอรู้ว่า Gas Temp ที่ Autotune ทำไว้ยังไม่ได้ถูกมาเป็นตัวแปรตั้งต้นที่ดี หลายคนก็ต้องยอมกลับมาทำใหม่หมด
และตัวเลขที่ Lock ค่า Gas Temp ในขณะที่ทำ Autotune นั้นจะเป็นดรรชนีตั้งต้นในการคำนวณอื่นอื่นอีกมากทีเดียว เน้นให้นิดนะครับเรื่องที่ต้อง Concern ก่อนทำ Autotune
-- เราควรหาค่า Gas Temp ที่กะให้ Autotune ทำเสร็จในระหว่าง Gas Temp ที่เท่าไร เตรียมพร้อมไว้ -- ควรหาคำตอบเรื่องแรงดันที่เหมาะสมกับขนาดรูหัวฉีด ค่าที่ดีออกมาให้ได้ โดยไม่ทำให้เกิด Full open ในอนาคต และสรุปให้ได้ว่า ตกลงเราจะตั้งแรงดัน Static ที่หม้อต้มที่เท่าไร เมื่อได้แล้วเราจะเลือกทำ Autotune ในขณะที่แก็สอย่างน้อยพอมีในถึงไม่น้อยกว่า 1/4 เพื่อจะได้ค่าแรงดันที่ปรกติใช้งาน เช่นสมมุติเราเลือกที่ว่าจะเอาแรงดันที่ 1.3 bar จากการที่เราทดสอบเรื่อง Full open หัวทิ่มปัีก ปั๊ก มาแล้วและได้ค่าแรงดันที่ดีของรูหัวฉีดรถเราแล้ว เราก็จะได้ไม่ต้องทำ Autotune ว้ำอีกหลายรอบ ยกตัวอย่างรถผมทดลองมาหลายอย่างแล้วได้ค่าที่ดีอยู่แถว Gas Temp 60C. แรงดันที่ 1.26 bar เวลาผมทำ Autotune ครั้งไหนก็ตามผมก็ใช้ค่าที่ทดสอบออกมานี้ตลอด เวลาเอาไฟลฺเก่าย้อนหลังแบบไหน ก็จะได้ใช้อยู่ได้ตลอด
เราไม่สามารถแก้ตัวเลขที่ Autotune ทำไว้เกี่ยวกับค่า Gas Temp Base ที่บันทึกไว้ได้เลย ยกเว้นเสียแต่ไปแก้ที่ไฟล์ที่ Save ไว้ โดยเซียนโปรแกรมมิ่งเท่านั้น ซึ่งยากแน่นอนที่จะทำ และจะมี Side Effect ไปถึงการ Base การคำนวณหลายตัวด้วยกันทีเดียว สรุปคือต้องทำ Autotune ใหมเท่านั้น แต่ก็มีข้อดีเหลืออยู่อีก หากมีการเก็บค่าน้ำมันหรือที่เรียกว่า ตารางน้ำมันไว้สวยงามดีมากแล้ว ก็ควร Save เก็บเป็น Reference เอาไว้ด้วย
เพราะไฟล์นี้หากเอามาทำ Autotune ใหม่ จะสูญเสียกราฟแก็สไปเท่านั้น แต่จะไม่เสียค่าน้ำมันหรือกราฟน้ำมันไปแน่นอน เพราะการเก็บค่าน้ำมันไม่มีการสนใจเรื่อง Gas Temperature จึงเอามาทำ Autotune ได้หลากหลายแรงดันและ Gas Temp ทีเดียว
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้จึงเห็นควรว่าการเก็บค่าน้ำมันควรเป็นสิ่งแรกที่ต้องปราณีตกับมันให้ออกมาดีก่อนอันดับแรก แล้วค่านี้ควรจะเก็บไฟล์เป็น Master Tape ที่ดีไว้ เพราะสามารถเอาไว้ทำการ Modify ปรับได้หลายอย่างโดยไม่ต้องนับ 1 ใหม่ทุกครั้ง เพียงแต่ Autotune ใหม่ก็จะได้ Gas Temp, Gas Pressure ที่ตำแหน่งใหม่และมีกราฟน้ำมันที่ดีรอเพียงแค่การขับปรกติแล้วกราฟแก็สก็จะถูกสร้างขึ้นตามมาเอง
สำหรับผมกราฟน้ำมันที่ดีแล้ว คือเงินค่าน้ำมันนั่นเอง อิ... เสียดายครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:24:52 PM
|
chaipat004
Jr. Member
ออฟไลน์
กระทู้: 19
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:24:52 PM » |
|
ขอบคุณมากครับ หมดค่าน้ำมันไป เกือบถังแล้ว เพิ่งมารู้ว่าเอาไฟล์เก่าทีมีค่าน้ำมันโยนเข้าไปแล้ว Autotune ได้ T-T ขอบคุณ คุณ newguy มากๆครับที่ให้ความรู้(และทำให้ผมต้องไปจูนใหม่อีกรอบ อิอิ) ยิ่งรู้ยิ่งสนุก คันไม้คันมืออยากลองอีกแล้ว
ล่าสุด จับคว้านรู 2.1 ไปเรียบร้อยแล้วครับ กด Autotune มันฟ้องว่ารูใหญ่ แต่ไม่สนใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้วิ่งจูนแล้วจะเอากราฟมาให้ดูครับ แล้ว Pressure ของ Gas ที่ Autotune มาได้ ไม่ควรปรับใช่ไหมครับได้
Operational 1.20 bar Minimum 0.72 bar
ถ้าปรับเองจะเป็นยังไงครับ ระหว่าง 2 ค่านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2014, 09:49:09 AM
|
newguy
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2014, 09:49:09 AM » |
|
ยังไม่ไปแตะมันตอนนี้ครับ ยกเว้นเสียแต่ว่าเรามีเหตุผลอื่นที่จะไปปรับมัน .... ซึ่งตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าจะไปปรับเพื่ออะไร เพราะ ecu คำนวณค่าออกมาเป็นค่าที่น่าจะมีความแม่นพอควรที่การทำ Autotune นั้น
พยายยามมอง Gas Temp บ่อยหน่อยนะครับพอเวลาวิ่งปรกติ จะได้กะระยะได้ว่าเราควรจะทำ Autotune ที่เท่าไร่กี่องศาของอุณหภูมิเนื้อแก็สดี รถแต่ละคันค่านี้จะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับระบบน้ำร้อน และวิธีและตำแหน่งที่ตั้งหม้อต้ม และอื่นอื่น.. แต่ค่ากลางกลางมักจะเอาแถว 60c. ไปก่อนในครั้งแรกเลย เพราะยังไม่รู้บุคคลิคว่ารถเราร้อนดีระบายดีอย่างไรบ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2014, 07:10:46 PM
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2014, 08:16:09 PM
|
newguy
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2014, 08:16:09 PM » |
|
คงได้สมดังใจแล้วมังครับ เรื่องจุดจูนอยู่สูงเกินไป แล้วสร้างเงื่อนไข Full open .. คราวนี้ลงต่ำเลย ผมเดาว่าหากมีการทำ Autotune เพื่อเหตุผลอื่นในอนาคต น่าจะลองที่ 1.10 bar ดูด้วยจุดจูนมันคงจะขยับขึ้นไปอีกนิด หนีการเดินเบาสั่นเมื่อกรองเริ่มจะตัน หม้อเริ่มจะสกปรก ทำให้เกิดแรงดันสวิงย่านสูงต่ำกว้างกว่าปรกติ ผมในชีวิตยังไม่เคยเล่น ECU แบบพ่วง OBD เลย อ่านเรื่องกราฟน้ำมันหายตอนเปิด OBD Adaptive แล้วยังคาใจอยู่ว่า จนบัดนี้ยังไม่มีใครหาวิธีให้กราฟน้ำมันมันคงอยู่ในสภาวะนั้นหรือ มันเป็นเรื่องที่ Must be ไปแล้ว หรือมีวิธีทำให้มันคงอยู่ พี่พี่ท่านไหนพอให้คำตอบสมาชิกเราหน่อยสิครับ มันน่าจะมีคำตอบที่เคลียร์กว่าการ Up หรือ Down gerneration ของ Firmware นะ หรือมีข้อสรุปมาจากผู้ผลิตแล้วว่า Must be gone เมื่อเปิด OBD Adaptive แหมถ้าไม่มีคำตอบ วันไหนได้ลอง OBD มั่งจะได้ไปล้วงไปแคะดูสิ อะไรที่มันทำให้หายไป แล้วแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เคยอ่านผ่านผ่านแต่ยังไม่เห็นมีคำตอบที่เป๊ะเลยครับ พี่ท่านใดมีวิธีแวะมาบอกพวกเรากันหน่อย จะไปงมหากันคงอีกนานหรือไม่ได้เลย แล้วนึกเสียดายที่จะต้อง Downgrade ลงมาใช้ version เก่าเก่า เพราะอาจเสียการ Update ค่าการคำนวณที่แม่นขึ้นและ Injectors Support ตัวใหม่ใหม่ หรือเก่าแต่ปรับค่า Compensate ให้ใหม่แม่นกว่าเดิม หรือ Function ที่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น สรุป.. เริ่มต้นมาได้ดีครับ คงสนุกกับการจูนแล้วสิ ต่อไปเปลี่ยนกรองเอง ล้างหม้อต้มเอง เปลี่ยนหัวฉีดเอง ก็ไม่ต้องไปร้านแก็สแล้วมังครับ สบายกระเป๋า อิ..... เรื่องกราฟหาย รอพี่พี่ที่เล่น OBD มาเว้ากันให้ฟังครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างต่อสายไฟหัวฉีด 4,3,2,1 แบบนี้สลับไหม
|
ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2014, 09:15:43 PM
|
Mr.แก๊ส
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2014, 09:15:43 PM » |
|
สรุป.. เริ่มต้นมาได้ดีครับ คงสนุกกับการจูนแล้วสิ ต่อไปเปลี่ยนกรองเอง ล้างหม้อต้มเอง เปลี่ยนหัวฉีดเอง ก็ไม่ต้องไปร้านแก็สแล้วมังครับ สบายกระเป๋า อิ.....
ผมขออนุญาตผ่านเรื่อง กราฟหายนะครับ แต่ผมขอเรื่องการบำรุงรักษา Hardware ด้วยตัวเอง หากทำแล้วส่งผลการรับประกันแน่นอน..!! หรือเกิดเหตุบางอย่างที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ปัญหาย่อมเกิดแน่นอน เพราะอย่างน้อยการเคลมค่าสินไหมประกันภัยของบริษัทผู้รับประกันย่อม ย้อนหาเหตุแห่งปัญหา และตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงตามระยะที่ผ่านๆ มา แน่นอน ว่าเป็นอย่างไร ทำอะไรมาก่อนบ้าง ได้เข้ารับบริการจากอู่ที่ติดตั้งแห่งเดิม หรืออู่ในเครือยี่ห้อนั้นๆ อย่างถูกต้องหรือไม่ ขนาดผมเองมีเพื่อนที่ทำอู่แก๊ส แต่เค้าไม่ได้ติดตั้งยี่ห้อที่ผมใช้ ผมยังไม่ให้เพื่อนผมทำให้เลยครับ ขอ play safe ประเด็นนี้ไว้ การบำรุงรักษา Hardware นั้น ควรทำโดยผู้มีประสบการณ์ และความชำนาญ ที่ทำงานเกี่ยวกับแก๊สรถยนต์ จะดีกว่า มือใหม่ร้อนวิชา มีเยอะที่ไปทะเลาะกับอู่เมื่อเกิดปัญหาถายหลังครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|