วันนี้มา Review งานติดตั้งชุด AC ใน Benz E240 W210 V6 สไตล์ Autogas Salon
พร้อมการเซ็ตอัพค่า Correction ต่างๆในโปรแกรมครับ
Specification : ชุด Stag-300 ISA2 6 สูบ, ถังโดนัท 59 ลิตรวาล์ว Lovato, ท่อทองแดง 8 มิล
Upgrade อุปกรณ์หม้อต้ม Tomasetto Antartic, รางหัวฉีด Hana 2000 Red, กรองแก๊ส Lovato, สวิตซ์ LED
งานติดตั้งรุ่นนี้ไม่ใช่หมูๆอย่างตัว 6 สูบแถวเรียงในบอดี้ตัวอื่นๆของ Benz เพราะตัวนี้เป็นเครื่อง V6 ครับ
ช่างต้องมะรุมมะตุ้มกันน่าดู...
ท่อร่วมไอดีที่ถอดแสนจะยากเย็น กว่าจะออกมาได้นี่เล่นซะเกือบชั่วโมง
จุดที่เจาะฝัง nozzle ต้องเล็งให้ดีหน่อย ไม่งั้นองศาไม่ได้และท่อทางจะไปติดอุปกรณ์ของรถได้
แถมท่อร่วมรุ่นนี้ใช้มิเนียมเกรดสูง เจาะเข้าและต๊าปเกลียวยากมากเพราะเนื้อมิเนียมแข็งกว่ารุ่นอื่นๆที่เคยทำมา
หากช่างคนไหนทะลึ่งไปเจาะสดเข้าแล้วเศษหล่นลงไปในเสื้อสูบละก็... มีเฮละ...
ปลั๊กหัวฉีดรุ่นนี้ไม่ต้องตัดต่อสายไฟของรถเพราะสามารถใช้ปลั๊ก Bypass รุ่น EV1 ได้ครับ
เครื่อง V6 การเดินสายไฟหัวฉีดต้องระวังไม่ให้สลับสูบเพราะไม่ได้นับเรียงแบบเดียวกับเครื่องแถวเรียง
ตอนประกอบท่อร่วมฯเข้าก็ต้องทากาวปะเก็น Threebond กันรั่วอีกชั้น ไม่งั้นได้มีรื้ออีกรอบ
ปั๊มติ๊กใช้กล่องตัดปั๊มแบบหน่วงเวลาช่วยให้รถไม่สะดุดเวลาสลับเชื้อเพลิงน้ำมัน-แก๊ส
มาดูงานหลังติดตั้งอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาไป 1 วันเต็มๆครับ
หม้อต้ม Tomasetto Antartic รับแรงม้าได้ระดับ 300 ตัว
เดินท่อทองแดง 8 มิล ท่อน้ำหุ้มด้วยท่อโปโล ส่วนท่อแวคคั่มและท่อระบายใช้ท่อถักหุ้มกันเสียดสีครับ
กรองแก๊ส Lovato 3 ไมครอนทำขายึดแน่นหนา
กรองละเอียดจะช่วยยืดอายุหัวฉีดให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
ตอนนี้ลูกค้าที่เลือกใช้หัวฉีด Lovato, Hana, Keihin เราแถมกรองตัวนี้ให้ครับ
ตำแหน่งติดตั้งหัวฉีด Hana 2000 Red ทำขายึดทั้ง 2 รางอยู่ด้านบนท่อร่วมฯ
ท่อยางแก๊สเข้ารางต่อแยกออกเป็น 2 ทางหุ้มด้วยท่อโปโล สายไฟทุกเส้นเก็บด้วยโปโล+ปุ๊กปิ๊กทุกจุด
ความยาวท่อแก๊สจากหัวฉีดเข้าท่อร่วมฯใกล้เคียงกันและหุ้มด้วยท่อถักกันเสียดสีกับฝาครอบ
งานสไตล์ Autogas Salon แบบนี้รับประกันความทนทาน+เนียน+ไม่เหมือนใคร
ชุดกล่อง ECU ติดตั้งไว้ในห้องโดยสาร ฟิวส์ระบบแก๊สติดตั้งให้ตรวจสอบง่าย
สวิตซ์ LED โฉมใหม่ไฟสวยงามครับ
งานติดตั้งถังโดนัทเลือกใช้ขนาด 59 ลิตรลงหลุมยางอะไหล่ได้พอดีเป๊ะ
รองพื้นถังด้วยโฟมกันเสียดสี มัลติวาล์วใช้ของ Lovato ระยะห่างจากถังถึงกันชนเกิน 20 ซม.
แถมกระเป๋าใส่ยางอะไหล่ Designed By แมวหมู
งานเดินท่อทองแดงและจุดยึดถังโดนัทใช้เหล็กแบนคาดยาวลดแรงกระชาก
จุดที่เจาะตัวรถพ่นด้วย Undercoating Threebond และซีลจุดที่น้ำจะมีโอกาสรั่วเข้าด้วยซิลิโคนทุกจุด
ตั้งค่า Auto Tune และตรวจเช็ครั่วเรียบร้อยก่อนนำไปวิ่งจูน Real time ตามโหลด
คันนี้แรงเอาเรื่องครับ ต้องวิ่งจูนใช้ระยะทางพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อเด่นของกล่อง Stag-4 Eco ขึ้นไปจะมีหน้า RPM Correction เพื่อเพิ่มการจูนให้ละเอียดขึ้นได้อีก
หากใช้ชุด Stag-200 สำหรับรถบางรุ่นหรือรถรุ่นเก่าที่ยังไม่ใช้ port OBD II ก็สามารถจูนกราฟหน้าเดียวให้จบได้
แต่กับรถรุ่นใหม่ๆที่มีการฉีดแบบ Sequential ประมวลผลแบบ OBD II, OBD CAN หากจูนแบบหน้าเดียวบางจุดบางช่วงของกราฟจะไปคาบเกี่ยวกัน
เช่น ช่วงจอดรอบเดินเบาจะคาบเกี่ยวกับช่วง close loop รอบ 1,000-1,500 ทำให้เวลาจอดรถแก๊สจะจ่ายพอดีแต่พอวิ่งแล้วแก๊สอาจจะบางหรือหนาได้
อย่าง E240 คันนี้ รอบเดินเบาจ่ายเท่าน้ำมันแล้ว แต่พอนำมาวิ่งบนถนนพบว่าตรงกราฟที่จูนเดินเบาไว้ดันมาคาบเกี่ยวกับช่วงความเร็ว 40-60 กม/ชม.พอดี
หากไปปรับที่หน้ากราฟอย่างเดียว เส้นกราฟจะออกมาได้ 2 แนวคือ เดินเบาพอดี-วิ่งแล้วแก๊สบาง หรือ เดินเบาหนา-วิ่งแล้วพอดี
เราจึงต้องมาแก้การจ่ายในหน้า RPM Corr แทนเพื่อให้โหลดทั้ง 2 ช่วงแยกการจ่ายแก๊สให้ได้เท่ากับน้ำมัน
คือ ช่วงเดินเบาจ่ายพอดีตามเส้นกราฟที่ปรับ ส่วนตอนวิ่งปรับ PRM Corr เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยจ่ายแก๊สเพิ่มจากเส้นกราฟเดิมให้พอดีกับน้ำมัน
โหลดอื่นๆในช่วง Close loop ที่ไม่ได้คาบเกี่ยวก็กลับไปจูนเส้นกราฟได้ตามปกติ
ส่วนช่วง Open loop เลือกจูนได้ว่าจะจูนที่หน้าเส้นกราฟหรือหน้า RPM Corr ครับ
หน้า Temp Correction ถ้าเป็นรุ่น Stag-4 Plus ขึ้นไปเราสามารถปรับแก้ไขค่าชดเชยได้เองครับ
ค่า Temp ตัวนี้จะดูจาก Gas Temp ที่เซ็นเซอร์ก่อนเข้ารางหัวฉีด เป็นอุณหภูมิแก๊สที่ผ่านการต้มแล้ว
จะแปรผันมากน้อยอยู่ที่ระบบหล่อเย็นของรถ, ขนาดความเหมาะสมของหม้อต้มกับแรงม้าเครื่องยนต์, ,
ค่ามาตรฐานที่เหมาะสมกับรถยนต์บ้านเราส่วนใหญ่จะสูงเกิน 60 องศาขึ้นไปอยู่แล้ว
อย่างที่เซ็ตค่าใน E240 จะตั้งอุณหภูมิไม่ให้มีการชดเชยแก๊สเพิ่มถ้าอุณหภูมิสูงเกิน 65 องศาขึ้นไป เพราะตอนวิ่งจูนอ้างอิงจาก Temp ที่ 65-75 องศา
ถ้าอุณหภูมิแก๊สต่ำกว่านี่จะเริ่มลดเป็น % ลงเป็นขั้นบันไดตามอุณหภูมิที่ลดลง เพราะแก๊สอุณหภูมิยิ่งต่ำ ความหนาแน่นยิ่งมาก
ส่วนใหญ่จะลดลงเต็มที่ถึง 40 องศา เพราะหากต่ำกว่านี้ควรต้องไปตรวจเช็คระบบหล่อเย็น
หรือเช็คหม้อต้มที่เป็นต้นเหตุของปัญหาต้มแก๊สไม่ร้อนดีกว่ามาแก้ชดเชยในโปรแกรมครับ
หน้า Pressure Correction ก็เช่นกันครับ สามารถปรับแก้ไขค่าชดเชยแรงดันแก๊สขณะใช้งานได้
จริงๆหน้านี้แทบไม่จำเป็นต้องไปปรับมันเลยก็ได้ครับ ถ้าเลือกใช้หม้อต้มที่มีคุณภาพสูง
แรงดันจะนิ่งปล่อยแก๊สได้เสถียร แปรผันตามรอบการทำงานไม่ควรเกิน +-3% จากแรงดันที่ตั้งไว้
อย่าง E240 คันนี้ใช้หม้อ Tomasetto รุ่น Antartic ตั้งแรงดันการใช้งานไว้ที่ 1.1 บาร์
แรงดันที่ทดสอบใช้ถือว่าสอบผ่านครับ เพราะค่าแปรผันน้อยและแรงดันนิ่งใช้ได้
ปรับค่า Pressure Corr ไว้ 0% ที่แรงดัน 1.1 บาร์ ถ้าค่ามากกว่านี้จะค่อยๆลดการชดเชยแก๊สลงเพื่อไม่ให้แก๊สหนาเกินไป
ถ้าน้อยกว่านี้ก็เกลี่ยค่าขึ้นนิดหน่อยให้ค่าการจ่ายไม่บางลงจากที่จูนไว้ครับ
หากใช้ไปจนวันไหนค่าแรงดันทะลุเกิน 2 บาร์หรือว่าแรงดันสวิงขึ้นลงตลอด ก็แสดงว่าหม้อต้มกลับบ้านเก่าเรียบร้อย...
ค่า Map ที่ออกมาหลังจากการปรับจูนครบทุกโหลดทุกจุดแล้วก็แทบจะทับเส้นน้ำมันทุกย่านละครับ
ช่วงปลายปรับให้แก๊สหนากว่านิดๆกันเหนียวเพราะดูท่าทางเจ้าของรถจะออกแนวเท้าหนักพอดู...
ค่า Reflection แบนเป็นไม้บรรทัดได้เลยครับ
ตัวฟังชั่น ISA2 จากที่วิ่งจูนไปราวๆ 30 กิโล พยายามเหยียบให้ได้ทุกๆโหลดก็เก็บได้เยอะพอสมควร
รอให้ลูกค้าวิ่งจนเก็บค่าได้เต็มแล้วค่อยมาเปิดใช้ ISA2 อีกครั้งครับ (จริงๆจูนได้แบบนี้ไม่ต้องเปิดก็ได้นะ...)