NEWS
บุคคลทั่วไป
|
|
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2008, 05:00:21 PM » |
|
สยามแก๊สบุญหล่นทับปรับขึ้นแอลพีจี6บาท : จับตารายได้Q4กระฉุด! : ปลดภาระปตท.7 พันล้าน
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด(มหาชน) หรือ SGP กล่าวว่า กรณีภาครัฐอนุมัติให้มีการปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ภาคขนส่งและอุตสาหกรรมขึ้นอีก 6 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดเดือนละ 2 บาทเป็นเวลา 3 เดือน (ธ.ค.51-ก.พ.52) โดยช่วยเพิ่มรายได้บริษัท และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน LPG ที่นำไปใช้ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม มีกำไรชั้นต้น 15-17% ส่วนภาคครัวเรือนมีกำไรขั้นต้น 10%
ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายก๊าซ LPG ในภาคขนส่งสูงถึง 40% ยอดขายรวมโดยปีนี้มี 1.2ล้านตัน SGP เป็นผู้นำตลาดส่วนนี้โดยมีส่วนแบ่งตลาด 49.8% การอนุมัติขึ้น LPG ทุกๆ 1บาท บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 480 ล้านบาทต่อสัดส่วนรวมของยอดขาย LPG ทั้งหมด
สำหรับรายได้ไตรมาส 4/51 เติบโตมากกว่าไตรมาส 3/51 และยังขยายตัวมากกว่าไตรมาส 4/50 มาก เนื่องจากยอดขายเดือน ต.ค. 51 ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และเดือน พ.ย. ก็ยังดีต่อเนื่อง และยังมีการปรับราคาขายก๊าซ LPG เข้ามาอีกแม้ราคาน้ำมันลดต่ำลง ดังนั้นจึงมั่นใจว่ารายได้ทั้งปี 51 จะเท่ากับ 2.2-2.3 หมื่นล้านบาทเติบโต 30% สูงกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนรายได้ปี 2552 ฝ่ายขายตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% โดยปีหน้าบริษัทจะมีรายได้จากเอทานอลเข้ามาตั้งแต่เดือน มกราคม 52 ทั้งปีประมาณ 720 ล้านบาท กำลังการผลิต 1 แสนลิตรต่อวัน และคาดว่าจะมีรายได้จากการไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามเข้ามาอีก 1,000 ล้านบาทแต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเข้ามาในเดือนไหน คาดว่าจะมีความชัดเจนในการลงทุนประมาณต้นปีหน้า
"ฝ่ายขายตั้งยอดขาย LPG ตั้งเป้าโต 15%แต่ใจผมคิดว่าต้องมากกว่านี้ และปีหน้าเรายังมีรายได้จากเอทานอลอีกประมาณ 600 ล้านบาทและธุรกิจในเวียดนามที่เราขยายเข้าไปคิดว่าน่าเริ่มมัรายได้ครึ่งปีแรก ทั้งปีรายได้ก็น่าจะตกพันกว่าล้านบาท"
อย่างไรก็ตามการขยายการลงทุนธุรกิจก๊าซ LPG ในเวียดนามจะช่วยให้บริษัทก้าวต่อไปสู่ตลาดกัมพูชาได้ต่อเนื่อง ส่วนแผนขยายปั๊ม LPG จะขยายให้ครบทุกจังหวัดหรือกว่า 70 จังหวัด ภายใน 3 ปี จะเน้นเปิดปั๊มในจังหวัดที่มีปริมาณใช้สูง เช่น ชลบุรี พัทยาและ ภูเก็ต
นอกจากนี้บริษัทยังสนใจที่จะลงทุนขายก๊าซ LPG ในประเทศจีน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร แต่คาดว่าโครงการดังกล่าวอีกนานจะมีความชัดเจน และบริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนในโรงไฟฟ้า แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า เพราะว่าการลงทุนโรงไฟฟ้าเป็นการลงทุนที่สูงมาก
สำหรับการศึกษาแผนธุรกิจการลงทุนเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียนั้นคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 2,000 ล้านบาท โดยมองว่าจะได้สัมปทานเหมืองระยะเวลา 30 ปี แต่ยังไม่มีความชัเจนโดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของเหมือง ซึ่งบริษัทสนใจอยู่ 1 เหมืองหากบริษัทมีข้อสรุปว่าจะทำจะต้องหาเงินลงทุนจากการออกหุ้นกู้หรือการกู้เงินสถาบันการเงินแต่การลงทุนขยายปั๊มและการลงทุนในวียดนามจะใช้เงินจากการไอพีโอ
อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า แม้คาดว่าจะชะลอตัวแต่เชื่อว่ายอดจำหน่ายLPG ภาคครัวเรือนจะไม่กระทบ โดยจะกระทบกับส่วนการภาคขนส่งและอุตสาหกรรมมากกว่า แต่ดูภาพรวมยังน่าจะไปได้ดี เพราะเชื่อว่ราคาน้ำมันยังมีความผันผวนและยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีโรงงานปิดตัวขณะนี้
ทั้งนี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรกจากครึ่งปีแรกคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)อนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น และจ่ายเงินโบว์นัสพนักงานประมาณ 3 เดือน
ส่วนการที่ราคาหุ้นร่วงต่ำกว่าราคา IPO บริษัทคงจะยังไม่เข้าไปรับซื้อหุ้นคืนเนื่องจากเห็นว่าราคาหุ้นไม่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(บุ๊กแวลู) หากราคาหุ้นต่ำกว่าบุ๊กแวลูเมื่อไหร่บริษัทจึงจะกลับมาพิจารณากรณีการซื้อหุ้นคืนอีกครั้ง เพราะว่าบริษัทมีแผนการลงทุนจำนวนมาก
ข่าวหุ้น วันที่ 14 พ.ย. 2551
|