งานแก้ไขเดี๋ยวนี้นับวันยิ่งแก้ยิ่งยากยิ่งมึนเข้าไปทุกวัน
โดยเฉพาะรถที่วางเครื่องมาหรือเอาไปดัดแปลงตามประสาช่างไทย
มาคราวนี้เป็นเจ้า Kia Carnival V6 แต่เครื่องในถูกควักทิ้งเปลี่ยนเป็นค่าย Toyota รหัส 1MZ-FE V6 3,000cc.
เห็นสภาพมาแบบนี้คงได้แก้กันเหนื่อยอีกรอบละ
ติดตั้งชุด Kit ของ BSM เจ้าเก่ามาอีกแล้ว ลูกค้าแจ้งปัญหามาหลายรายการเลย
ตั้งแต่รถวิ่งสู้น้ำมันไม่ได้ เบาดับ เลี้ยวดับ รอบเดินเบาไม่นิ่ง เหยียบคันเร่งแรงๆระบบตัดเข้าน้ำมัน มีเสียงหอนเวลาเร่ง และได้กลิ่นแก๊สเข้าห้องโดยสาร
แค่เปิดฝากระโปรงหน้ามาเท่านั้นก็ถึงบางอ้อแล้ว
เพราะรางหัวฉีดตั้งเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกลแบบนี้แสดงว่าท่อแก๊สต้องยาวเกินมาตรฐานแน่ๆ
แต่พอปิดฝากระโปรงชั่วคราวเพื่อจะถอยรถตั้งลำเพื่อเข้า service
ลูกน้องสับเข้าเกียร์ D ปุ๊บ เสียงช่วงล่างดัง 'ปึ้ง' ขึ้นมาโดยที่รถไม่ได้ไปชนกับอะไร...
พอเหยียบคันเร่งอีกทีรถก็ไม่วิ่งแล้ว เลยต้องช่วยกันเข็นรถขึ้นมาเข้าซองก่อน
เปิดฝากระโปรงตรวจสอบถึงกับช็อคครับ... เพราะเพลาขับหน้าขวามันขาดครับ!?
รีบเอาไอ้เข้มายกรถถอดล้อออกมาดูก็เจอเพลาห้อยโตงเตงเรียบร้อย...
แถมยางหุ้มเพลาขับก็ขาดจารบีกระจายเต็มไปหมด... แบบนี้งานงอกเพิ่มมาอีกจุดแล้วละครับ... เศร้า
รีบโทรแจ้งทางลูกค้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งลูกค้าก็ไม่ได้โวยวายอะไร
เนื่องจากเพลาขับตัวนี้เคยตัดต่อมาก่อนแล้วเพราะวางเครื่องบล็อคข้ามสัญชาติแบบนี้จะใช้เพลาขับที่มีขนาดเดียวกันได้เป๊ะๆนี่คงยาก...
ตอนแรกกะจะให้ลูกค้าลากไปซ่อมเพลามาให้เรียบร้อยก่อน
แต่ถ้าจะให้ลูกค้าหารถมาลากไปเข้าอู่อื่นก็จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าแถมเสียเวลาไปๆมาๆอีก...
งานนี้เลยขันอาสารับแก้ไขให้เสร็จทั้งสองอย่างไปเลยดีกว่า...
เพื่อให้งานแก้ไขเสร็จได้ภายในวันเดียว ต้องแบ่งลูกน้องออกมาทำงาน 2 ส่วนคือ
ชุดนึงแก้งานระบบแก๊สที่เป็นงานหลัก
ส่วนอีกชุดต้องรีบมาถอดเพลาขับเพื่อส่งโรงกลึงเอาไปตัดต่อใหม่ และวิ่งหาซื้อยางหุ้มเพลาขับกับอะไหล่อื่นๆ
เริ่มต้นตรวจสอบระบบแก๊สที่ติดตั้งมาก็พบปัญหาหลายจุดครับ
จุดติดตั้งรางหัวฉีดทำขายึดรางไว้ด้านบนทำให้ท่อแก๊สจากหัวฉีดเข้าท่อร่วมไอดียาวเป็นฟุตทุกเส้นเลย...
สายไฟปลั๊กหัวฉีดสูบต้นสายยาวไม่พอทำให้ดึงรั้งสายจนฉนวนใต้ปลั๊กเริ่มฉีกขาด ปล่อยไว้นานมีโอกาสช็อตได้
ชุดสายไฟติดตั้งคอนเซ็ป 'มายังไง ไปแบบนั้น'
ไม่มีการมัดเก็บให้เรียบร้อย ดูแล้วรกห้องเครื่อง
จุดเจาะฝัง nozzle ท่อร่วมไอดีก็เจาะกันง่ายๆไว้ส่วนท่อนบนเลย
แบบนี้ดูก็รู้แล้วว่าไม่ได้ถอดท่อร่วมฯออกมาเจาะครับ ระยะห่างจากหัวฉีดน้ำมันมากมาย
บวกกับความยาวท่อแก๊สจึงมีผลทำให้รถมีอาการหน่วงและมีโอกาสเบาดับสูง
มีการแปลง sensor วัดอุณหภูมิแก๊สโดยใช้ท่อทองเหลืองมาเจาะต๊าปเกลียว และเอา nozzle มาฝังแปลงเป็นท่อแก๊สเข้า Map sensor
แนวคิดดีครับ แต่ค่อนข้างจะไม่แข็งแรงเอาซะเลย เพราะทองเหลืองค่อนข้างบาง
และไม่ได้เอาเข็มขัดรัดท่อแก๊สไว้ ทดสอบเอาสเปรย์เช็ครั่วฉีดดูก็มีฟองผุดขึ้นมาตามคาด
อนาคตถ้าท่อหลุดก็แก๊สพุ่งละ...
ตำแหน่งติดตั้ง Map sensor เบียดอยู่ด้านหลัง ขายึดใช้เหล็กรูดูแล้วไม่แข็งแรงเท่าไหร่
ท่อแวคคัมใช้ท่อแบบบาง อนาคตแตกหักรั่วได้ง่ายเพราะห้องเครื่อง V6 นั้นร้อนจัดครับ
จุดที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดคือ หม้อต้มครับ เพราะพี่ท่านเอาหม้อ Tomasetto Alaska 140HP มาใช้ได้ยังไงกับเครื่อง V6 3,000CC.
แบบนี้จะเอาแก๊สที่ไหนไปจ่ายให้ทันตามโหลดโดยเฉพาะช่วง open loop
มิน่าเวลาเหยียบคันเร่ง หม้อต้มมันถึงหอนเพราะมันต้มไม่ทันกิน
ประหยัดแบบนี้ไม่นานฝาสูบ วาล์วไอเสีย กลับบ้านเก่าแน่ๆครับ
ตัดมาที่งานช่วงล่างบ้าง
ลูกน้องต้องรีบจัดการรื้อเพลาขับออกมาก่อน จะได้รีบส่งไปต่อที่โรงกลึงให้งานเสร็จภายในวันเดียว
สภาพเพลาจุดหักอยู่ที่ตรงแนวตัดต่อเพลาพอดี
อาจเป็นเพราะการเหยียบคันเร่งกระชากเครื่องบ่อยๆ สะสมนานๆเข้ารอยต่อที่เชื่อมไว้เลยหักได้
ทำการถอดท่อร่วมไอดีท่อนล่างออกมาเจาะฝัง nozzle ให้ใกล้ตำแหน่งหัวฉีดน้ำมันที่สุด
รุ่นนี้จะมีท่อร่วมท่อนบนและท่อนล่าง
เจาะฝังที่ท่อนล่างจะใกล้กว่าและองศาการเจาะไปในทิศทางเดียวกับหัวฉีดน้ำมันครับ
หลังจากเจาะฝัง nozzle แล้ว ประกอบเข้าพร้อมทากาวปะเก็นกันรั่วอย่างหนา
รางหัวฉีดติดตั้งไว้ฝั่งละรางเพื่อให้ท่อแก๊สยาวใกล้เคียงกันทั้ง 6 สูบ
สายไฟเก็บใหม่ด้วยโปโลและปุ๊กปิ๊กให้ทุกจุด ถึงจะไม่ได้ติดที่เราแต่เราไม่ลดมาตรฐานงานหรือแค่ทำให้จบๆไปครับ
ย้ายรางแบ่งเป็นหน้าหลังอย่างละจุด ฝั่งนี้ท่อร่วมท่อนบนจะปิดคร่อมอีกที
เปลี่ยน Sensor อุณหภูมิแก๊สวางไว้ปลายรางหัวฉีดแทน
ฝั่งนี้อยู่ด้านหน้า ติดตั้งแบบนี้แล้วท่อแก๊สไม่ยาวมากครับ
หม้อต้มเปลี่ยนมาใช้ตัว Tomasetto Antartic เห็นเค้าบอกว่าได้ถึง 380HP
ทำขายึดใหม่เพราะขนาดและน้ำหนักเยอะกว่าเดิม
ติดตั้งที่เดิมแต่ท่อทองแดงยาวไม่ถึง เลยต่อเพิ่มตัวกรองแก๊สมาช่วยอีกตัวให้ทิศทางข้อต่อหันไปทางเดียวกัน
มาดูงานหลังแก้ไขระบบเสร็จเรียบร้อย
ย้ายรางลงไปด้านล่างทำให้ท่อแก๊สสั้นลงเยอะกว่าเดิมครึ่งๆ
หม้อต้มแรงดันตั้งมาจากโรงงานที่ 1.3-1.4 บาร์ดูจะสูงเกินไปสักหน่อยสำหรับรถเครื่อง N/A
ปรับลดแรงดันอยู่ที่ราวๆ 1.2 บาร์ดีกว่าเพื่อไม่ให้หัวฉีดต้องรับภาระมากนัก
ข้อต่อเช็ครั่วทุกจุดไม่มีปัญหาการรั่ว ยึดตำแหน่ง Map sensor ให้แข็งแรงกว่าเดิม กรองแก๊สหุ้มด้วยโฟมกันเสียดสี
ท่อยางแก๊สเปลี่ยนใหม่มาใช้ท่อถักเเกรดสูงทุกเส้น
ท่อร่วมทุกจุดก่อนประกอบเข้าเราทากาวปะเก็น Threebond ให้อย่างหนา
จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาอากาศรั่วเพราะปะเก็นเครื่องบล็อคนี้หาซื้อแถวนี้ไม่ได้เลย
ตัดมาที่งานช่วงล่างต่อ...
หลังจากส่งเพลาไปต่อที่โรงกลึง ใช้วิธีกลึงเตเปอร์และเชื่อมพอกด้วยเครื่องเชื่อม CO2 ก่อนกลึงล้างให้เรียบอีกรอบ
งานที่ได้ถือว่าเนียนครับ ความทนทานนี่คงต้องวัดกันที่การใช้งานจริงละ
เปลี่ยนยางหุ้มเพลาขับตัวใหม่พร้อมอัดจารบีเพลาขับให้แน่น
ถึงจะไม่ใช่งานที่ถนัดนัก แต่ลูกน้องไม่เกี่ยง ทำไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน แต่มันทำไปบ่นไป...
จะลำบากก็ตอนประกอบเข้านี่แหละ
น็อตยึดเพลาขับตอนถอดออกมามี 3 ตัวที่เกลียวน็อตเริ่มล้ม
ตอนใส่พยายามอยู่นานสุดท้ายดันเกลียวหวานซะจนได้...
ต้องวิ่งไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่อีก กว่าจะเสร็จเล่นเอาเลอะเทอะเปรอะจารบีไปทั้งแขนเลย...
งานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เสียบโปรแกรมดูค่าการจูน
ของเดิมใช้ Autotune มา (อีกแล้ว) ดูแล้วค่อนข้างบางในช่วงกลางและปลาย
ต้องแก้ไข Map ใหม่หมด ถ้า GI ผมจะชอบจูนแบบตารางมากกว่าแบบเส้นเพราะเกลี่ยรอบได้หลายโหลด
ค่าที่ได้ถือว่าผ่านฉลุยครับ Close Loop ค่า Trim อยู่ราว -1% ถึง -2%
Open Loop ช่วงปลายอยู่ราวๆ 0.895V ที่ 4500-5000 รอบ รถวิ่งฉิวขับสนุกครับ
สรุป เหลือแค่ให้ลูกค้าเอารถไปตั้งศูนย์ใหม่เพราะหลังจากถอดประกอบเพลาขับแล้ว รถกินซ้ายนิดหน่อย
ตอนแรกกะว่าจะเอาไปตั้งให้แต่กว่าจะเสร็จงานก็เล่นไปสองทุ่มกว่าแล้ว... อู่ตั้งศูนย์ก็ปิดไปเรียบร้อย...
ส่วนอาการแก๊สที่แจ้งมาหายหมดทุกอาการครับ
หากติดตั้งได้ตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตแนะนำโอกาสที่จะพบปัญหานี่ยากครับ
แต่เหมือนว่าผู้นำเข้าบางยี่ห้อจะมัวแต่ขายของตัวเองอย่างเดียวมากเกินไปจนไม่มาสนใจเรื่องเทคนิคหรือการอบรมตัวแทนเท่าไหร่
ยี่ห้อที่เห็นๆกันบ่อยๆเป็นยังไง ก็ยังเป็นปัญหาเดิมๆกันมาตลอดไม่มีการปรับปรุง...
นึกว่าอู่ที่ซื้อไปมีความรู้แล้ว สามารถติดได้เลย แต่ใครจะรู้ว่าที่มันอาจจะมีบางจุดบางที่ที่ยังไม่ถูกต้องตามแบบแผนที่ฝรั่งเค้าวางมา
พอรถลูกค้ามีปัญหา แบรนด์ของท่านก็จะเป็นเครื่องประจานตัวท่านเองได้อย่างดี
ฝากไปให้คิดดูครับ...