LPG
บุคคลทั่วไป
|
|
« เมื่อ: ตุลาคม 27, 2008, 12:35:54 AM » |
|
นสพ.ข่าวหุ้น วันที่ 27 ต.ค. 2551
พลังงานเคาะราคาLPGใหม่วันนี้ : เส้นตายเริ่มใช้เดือนหน้า รีดโซฮอล์-ดีเซลเข้ากองทุนเพิ่ม
" พลังงาน"ขีดเส้นตายขยับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ภายในเดือนต.ค.นี้แต่ทยอยขึ้นแบบขั้นบันไดหวั่นกระทบประชาชน เตรียมหารือแนวทางวันนี้ ก่อนโยนกพช.ตัดสินอีกครั้งวันศุกร์นี้ ขณะที่รีดเงินแก๊สโซฮอล์-ดีเซลเข้ากองทุนฯเพิ่มเพื่อรองรับหลังหมด 6มาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิต จวกผู้ค้าน้ำมันอีกแล้วหลังค่าตลาดพุ่ง 5 บาทต่อลิตร
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้(27ต.ค.) กระทรวงฯจะหารือเกี่ยวกับแนวทางการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)เป็น 2 ราคา โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรม เบื้องต้นจะทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน โดยจะเร่งหารือข้อสรุปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะเสนอเข้าพิจารณา ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)วันที่ 31 ต.ค.นี้
"กระทรวงฯคาดว่าจะสามารถประชุมกพช.ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้ภายในวันศุกร์นี้ โดยจำเป็นต้องมีการปรับแอลพีจีเป็น 2 ราคาขณะที่ปัจจุบันราคาแอลพีจีในตลาดโลกปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบด้วยส่วน รายละเอียดนั้นต้องหารือร่วมกับคณะทำงานที่มีนายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานก่อน"รมว.พลังงาน กล่าว
ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา มีมติเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม ในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95(อี10)จำนวน 1 บาทต่อลิตรจากเดิม 1.35 บาทต่อลิตร,แก๊สโซฮอล์ 91(อี10)จำนวน 90 สตางค์ต่อลิตร จากเดิม 0.85 บาทต่อลิตร,ดีเซลบี2 จำนวน 50 สตางค์ต่อลิตรจากเดิม 1.20 บาทต่อลิตร
ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95(อี20)ได้ปรับลดการเรียกเก็บลงจากเดิม 30 สตางค์ต่อลิตรเหลือเพียง 15 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันอี20 ถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 ตามนโยบายด้นพลังงานของรัฐ จากสัปดาห์ก่อนที่ราคาขายปลีกเท่ากันดังนั้นเชื่อว่าเมื่อราคาน้ำมันอี20 ถูกลงจะทำให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันดังกล่าวเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการจูงใจผู้ประกอบการให้เปิดสถานีบริการน้ำมันอี20 เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนดีเซล บี5 จะมีการชดเชยต่อไปที่ 20 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ส่วนต่างราคาดีเซลบี5 อยู่ที่ 1 บาทต่อลิตร จากเดิมอยู่ที่ 70 สตางค์ต่อลิตรเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ บี5 มากขึ้น และให้ผู้ประกอบการนำน้ำมัน บี100 มาผสมเป็น บี5 เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มให้มีระดับราคาปาล์มน้ำมัน ที่เหมาะสม และลดปริมาณปาล์มน้ำมันที่ล้นตลาดอยู่ในขณะนี้
ด้านน้ำมันเบนซิน 95 และเบนซิน 91 ปัจจุบันเก็บเต็มเพดานที่ 4 บาทต่อลิตรแล้วโดยจะไม่มีแผนปรับเพดานราคาดังกล่าวเพิ่ม เนื่องจากเห็นว่าระดับดังกล่าว เป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว ทั้งนี้การปรับเพิ่มอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนดังกล่าวมีผล ตั้งแต่วันที่ 25ต.ค.51 เป็นต้นไป
ดังนั้นภายหลังจากการปรับอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนฯใหม่จะส่งผลให้มีเงิน เข้ากองทุนฯเพิ่มอีก 733 ล้านบาทต่อเดือนจากเดิมที่ 2,410 ล้านบาทรวมเป็น 3,150 ล้านบาทต่อเดือน ขณะนี้สถานะกองทุนฯอยู่ที่ 3,750 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ กองทุนฯจะมีเงินอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทเพียงพอต่อการรองรับการปรับขึ้นราคาน้ำมันก่อนที่จะสิ้นสุด มาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิต ตามมติของคณะรัฐมนตรีชุดก่อน ที่จะสิ้นสุดภายในวันที่ 31 ม.ค.52
"การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มครั้งนี้ไม่ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันใน ประเทศปรับราคาขึ้นแน่นอน โดยเงินที่เรียกเก็บทั้งหมดจะนำไปรักษาเสถียรภาพน้ำมัน หลังสิ้นสุด6 มาตรการ 6 เดือนในเดือนม.ค.ปีหน้า หลังมีการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันขึ้นเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ส่วนเงินที่ต้องจ่ายชดเชยคืน ให้กับผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันจำนวน 2,300 ล้านบาท ได้มีการหารือร่วมกับสภาพัฒน์เพื่อหางบประมาณกลางมาจ่ายคืนให้ต่อไป"รมว. พลังงานกล่าว
สำหรับค่าการตลาดมองว่าปัจจุบันค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันในเดือนต.ค.นี้สูง มากโดยในส่วนของเบนซิน 95 อยู่ที่ 5.64 บาทต่อลิตร,เบนซิน91 อยู่ที่ 3.10 บาทต่อลิตร,แก๊สโซฮอล์95(อี10)อยู่ที่ 2.93 บาทต่อลิตร,แก๊สโซฮอล์ 95(อี20) อยู่ที่ 2.53 บาทต่อลิตร ,แก๊สโซฮอล์ อี10 อยู่ที่ 2.87 บาทต่อลิตร,ดีเซล บี2 อยู่ที่ 4.29 บาทต่อลิตรและดีเซลบี5 อยู่ที่ 4.77 บาทต่อลิตรเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมาค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ1.40 -1.50 บาทต่อลิตรเท่านั้น
โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นผู้ติดตามดูแลเรื่อดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน ให้ปรับลดค่าการตลาดให้อยู่ระดับที่เหมาะสมด้วย ขณะที่มองว่าค่าการตลาดที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 1.20-1.50 บาทต่อลิตร นสพ.ข่าวหุ้น วันที่ 27 ต.ค. 2551
|