หลังจากได้ชุด Kit Lovato OBD 6 สูบและหม้อต้มบิ๊กเปามาก็ลองของทันทีกับลูกค้าเจ้าแรกหลังสงกรานต์ครับ
หม้อใหญ่ยักษ์ Import จากอิตาลี หากใครยังไม่ได้เห็นไส้ในตามไปดูได้ครับที่เว็ป
www.lovatothai.com ครับ
พื้นที่กักเก็บแก๊สมีเหลือเฟือ ไส้กรองตัวใหม่ทำมาเล็กกว่าเดิมครับ
แกนควบคุมแรงดันแก๊สด้วยเข็มเช่นเดิมครับ แต่ตัวนี้ใหญ่กว่าเห็นๆ
ข้อต่อเลือกขนาดท่อทองแดงใส่ได้ทั้ง 6 มิล และ 8 มิลครับ
ชอบตรงน็อตยึดหม้อครับที่ทำมาให้ยึดได้ถึง 5 รู แบบนี้ไม่มีขยับและไม่หอนแน่นอน
มาถึงรถเป้าหมายของเราคือ BMW E60 ตัวไมเนอร์ 2.5 ลิตร ส่วนแรงม้าเท่าไหร่นั้นไม่ทราบฝากผู้รู้เช็คหน่อย
แต่งานนี้ขอลองเจ้าบิ๊กเปาก่อนเพราะร้อนวิชาครับ...
คันนี้ต้องกราบงามๆหนึ่งทีก่อนเลยครับ เพราะเปิดมาห้องเครื่องแน่นมากๆแบบช่างติดแก๊สทุกท่านต้องเคือง... หาที่ลงยากชิบ...
จุดติดตั้งหม้อต้องเอามายัดไว้ด้านล่าง filter แอร์ครับ แบบว่ามองทางไหนก็ไม่มีที่ให้บิ๊กเปาสิงสถิตย์ได้เลย
เปิดออกมาถึงจะเห็นครับ วางใกล้หม้อลมเบรคที่พอมีพื้นที่เหลือ สายไฟและท่อแก๊สนี่ต้องลัดเลาะหาหลืบออกกันน่าดู
ส่วนอากาศที่ดูดเข้าระบบแอร์นั้นผ่านทางท่อด้านข้างครับ ความร้อนของหม้อต้มไม่มีผลกับระบบแอร์แน่นอนครับ
กรองแก๊สมีช่องเล็กๆให้ลงพอดีครับ ง่ายกับการเปลี่ยนไส้ในครั้งต่อไปด้วย
รางหัวฉีดวางเรียงด้านบนได้สบายครับ ดูแลซ่อมแซมและเช็ครั่วได้ง่าย บิดหลบฝากระโปรงนิดหน่อย
เคยเจอพวกแก๊ง Benz, BM ขี้อายที่ติดแก๊สจากที่อื่นแล้วจับเอารางหัวฉีดไปซ่อนไว้ด้านล่าง
พอหัวฉีดเสีย แก๊สรั่ว อู่ที่ติดให้ก็โบ้ยให้ไปทำที่อื่นเพราะไม่มีเวลามาซ่อม งานติดใหม่เยอะ+กำไรดีกว่า...
สุดท้ายขับมาให้ผมเปลี่ยนชุดซ่อม ต้องถอดท่อร่วม ถอดๆๆๆอื่นๆ เล่นไปค่อนวันกว่าจะเสร็จ...
แทนที่ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว... เสียทั้งเวลา+ค่าแรงเพิ่ม
หุ้มสายปุ๊กปิ๊กเก็บหมดทุกเม็ดครับ เสียเวลาทำนาน แต่คุ้มค่ากับความสวยงามและทนทานครับ
ห้องเครื่องโดยรวมหลังติดตั้งเสร็จเรียบร้อย
ท้ายรถเปิดมาโล่งแบบนี้นี่ยัดด้วยถังโดนัทแน่นอนครับ
ถัง Stako 59 ลิตร ขนาด 60x27 ซม. ตัวนี้เหมือนสร้างมาเพื่อ E60 ครับ ลูกหลุมพอดีแบบเป๊ะๆ แถมขอบไม่ล้นอีกต่างหาก
และเป็นถังโดนัทยี่ห้อเดียวในตลาดบ้านเราครับที่แถมท่อทิ่มลงด้านล่างเอาไว้ดักลมและระบายแก๊สได้ ตามมาตรฐาน ECE
ระยะขอบถังถึงกันชนก็เป๊ะ 20 ซม. อีกเช่นเดียวกันครับ
หัวเติมต้องหลบมาไว้ข้างไอเสียเพราะไม่มีที่เช่นกันครับ เพราะลูกค้าไม่อยากแกะพลาสติกด้านล่างออก
เลยต้องเอาผ้ากันความร้อนมาพันทับเอาไว้อีกทีเพื่อความปลอดภัยครับ
ตำแหน่งสวิตซ์ไม่มีรูเหลือและ จขร.ไม่ให้เจาะอีกเช่นกัน เลยต้องเอาไปแปะไว้ด้านล่างข้างปลั๊ก OBD เลย
สายไฟ 2 เส้นที่เอาไว้เชื่อมต่อเข้ากับ OBD CAN ของรถครับ
หลังติดตั้งเสร็จทดสอบการเชื่อมต่อ OBD โดยใช้โหมด Auto ก็สามารถต่อการใช้งานได้เลยครับ
Function ดูแล้วแทบจะเหมือน Energy นั่นแหละเพราะมาจากสำนักเดียวกัน...
ค่า Fuel Trim โชว์ทั้ง Bank 1 และ Bank 2 มีทั้ง Slow และ Fast มากันครบทั้งครอบครัวครับ
สังเกตด้านบนจะมีค่า Trim ของแก๊สแยกมาอีกต่างหาก จะฉลาดเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย
มีหน้า Adjustment กรณีอุณหภูมิแก๊สแปรผันตามการใช้งาน และ function เพิ่มลดแก๊สได้ในช่วงหัวฉีด cut off อีกด้วย
หลังจากลองวิ่งเช็คค่า Trim โดยที่ยังไม่จูนเอง OBD ก็สามารถปรับค่าเข้าใกล้น้ำมันได้
แต่ในช่วงที่ range ห่างกันมากต้องใช้เวลาปรับลด-เพิ่มพอสมควร แรงดันแก๊สไม่ต้องพูดถึงครับ ท่านบิ๊กเปาเอาอยู่สบายๆเลย
ดีที่สุดคือควรวิ่งจูนให้ใกล้เคียงน้ำมันก่อนแล้วกด Active Adaptivity ตามอีกทีก็จะออกมาเนียนที่สุดครับ
สรุป ชุด kit OBD ในมุมมองผมน่าจะเหมาะสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ ที่ Sensor ต่างๆยังทำงานได้ดี
และยังเหมาะสำหรับอู่ติดตั้งที่อาจไม่มีพื้นที่หรือถนนวิ่งจูนเป็นระยะทางยาวๆ
หากอู่ที่อุปกรณ์ในการช่วยจูนมีครบ ก็แทบไม่จำเป็นต้องไปใช้ OBD ให้มันแพงๆ รถก็วิ่งดีได้แทบไม่ต่างกันครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น องค์ประกอบที่สำคัญก็หนีไม่พ้นการติดตั้งที่ถูกต้อง ขนาดหัวฉีดและหม้อต้มที่เหมาะสมกับรถประกอบด้วยครับ