admin
|
|
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2008, 10:27:59 AM » |
|
ปตท.ยุรัฐลอยตัวแอลพีจีช่วงนี้ ไม่ห่วงกองทุนน้ำมันไส้แห้งไม่มีเงินชำระหนี้ 8,000 ล้านบาทเหตุต้องการยุติภาระนำเข้าแค่นี้ ขณะที่คลังเก็บแอลพีจีมีจำกัด พร้อมเบรก 2 ราคา เพราะทำให้เกิดปัญหาลักลอบเพิ่ม แต่เปลี่ยนช่วยเฉพาะกลุ่มแทนแนวโน้มยอดนำเข้าแอลพีจีปีหน้า 6-8 หมื่นตันต่อเดือน
นายสุรงค์ บูลกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปตท.ไม่ได้กังวลว่าหากรัฐตัดสินใจลอยตัวก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) อาจจะทำให้ไม่มีเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชำระหนี้นำเข้าแอลพีจี ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าการลอยตัวแอลพีจีจะทำให้ภาระหนี้นำเข้าไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้มองว่าหากรัฐตัดสินใจลอยตัวแอลพีจีในช่วงนี้ จะไม่กระทบกับราคาขายแอลพีจีในประเทศแต่อย่างใดหรืออาจปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากขณะนี้พบว่าราคาแอลพีจีในตลาดโลกได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 338 เหรียญสหรัฐต่อตัน เกือบเทียบเท่ากับราคาขายในประเทศที่ 332 เหรียญสหรัฐต่อตัน
อย่างไรก็ดีแนวโน้มราคาแอลพีจีตลาดโลกในช่วงเดือนม.ค.2552 คาดว่าจะปรับลดลงมาอีกเล็กน้อยตามราคาน้ำมันดิบ ดังนั้นตนเห็นว่าช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการลอยตัวแอลพีจี เพราะเป็นการยุติภาระหนี้การนำเข้าแอลพีจี
"ผมไม่กังวลว่ากระทรวงฯจะไม่มีเงินมาใช้หนี้เรา 8,000 ล้านบาท เพราะเรามีมติเงินช่วยเหลือ 1 หมื่นล้านบาท แต่การลอยตัวแอลพีจีให้เป็นไปตามตลาดโลกก็ทำให้ไม่เกิดภาระหนี้นำเข้าอีกต่อไป ส่วนหนี้สินคุยกันได้"นายสุรงค์ กล่าว
โดยตนเห็นว่า รัฐควรถือจังหวะลอยตัวแอลพีจีในช่วงนี้ โดยอาจแบ่งกลุ่มการช่วยเหลือแบบชัดเจน เบื้องต้นอาจมีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มแท็กซี่ ภาคขนส่ง และภาคครัวเรือน
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรม ตนเเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือ เพราะสามารถปรับต้นทุนได้
นอกจากนี้ สิ่งที่ตนยังกังวลคือ หากปริมาณความต้องการใช้แอลพีจียังเติบโตต่อเนื่อง ย่อมทำให้ต้องแบกรับภาระการนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก นอกจากจะเป็นการเพิ่มภาระกับประเทศแล้ว ในส่วนของอุปกรณ์เรามีจำกัด อย่างคลังเก็บแอลพีจีที่เขาบ่อยา ก็อาจไม่เพียงพอ เพราะสามารถเก็บสำรองแอลพีจีได้ประมาณ 1-1.2 แสนตันเท่านั้น ขณะที่ระบบโลจิสติกส์ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย
นายสุรงค์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบว่ามีการลักลอบนำเข้าถังแอลพีจีไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เนื่องจากราคาขายในไทยถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก นอกจากเนื้อก๊าซจะหายไปแล้ว ถังก๊าซยังหายไปด้วย นอกจากนี้ยังกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการดัดแปลงรถยนต์มาใช้แอลพีจีแล้ว
"การปรับ 2 ราคา ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มใช้ เป็นเพียงแนวทางการดำเนินการเท่านั้น หากยกเลิกแนวคิดดังกล่าวเป็นการลอยตัวในช่วงนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินการทางการเมือง ในทางกลับกันหากลอยตัวแล้วยังต้องนำเข้าอีก ก็ไม่มีปัญหาเพระาเราขายตามราคาตลาดโลกไม่ต้องไปอุ้มส่วนต่างนำเข้าเหมือนที่ผ่านมา"นายสุรงค์ กล่าว
สำหรับตัวเลขปริมาณการนำเข้าแอลพีจียังเติบโตขึ้น ปีนี้ ปตท.ต้องนำเข้าแอลพีจีเพียงรายเดียวตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.2551 เป็นต้นมา โดยเฉพาะช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาที่มียอดนำเข้าแอลพีจีสูงสุด 80,000 ตัน เพราะราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ทำให้ภาคขนส่งหันมาใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการนำเข้าแอลพีจีปีหน้า คาดว่าจะยังคงอยู่ที่ระดับ 60,000-80,000 ตันต่อเดือน ขณะที่ราคาเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 350-400 เหรียญสหรัฐต่อตัน
"ส่วนทิศทางราคาแอลพีจีนั้น จะอิงกับราคาน้ำมัน 95% โดยตนเชื่อว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันไว้ ขณะที่คาดการณ์ว่าราคาแอลพีจีมีแนวโน้มลดลงอีก ทำให้ตอนนี้ ปตท.นำเข้าแอลพีจีในราคาไม่สูงนัก"นายสุรงค์ กล่าว
|